สาระธรรม
งานบุญ ฟังธรรม อานิสงส์ของบุญ ที่พักสงฆ์โพธิ์กิ่ง
รายละเอียด
นโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ )
“ ปุญญานิ ปรโลกัสมิง ปติฏฐา โหนติ ปาณินันตีติ ”
ณ.โอกาสบัดนี้ อาตมภาพจะแสดงพระสัทธรรมเทศนา ในเรื่อง อานิสงส์ของบุญ เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ที่บรรดาท่านนริศราทานบดีทั้งหลาย ได้พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลประจำปักษ์ในวันนี้ การทำบุญของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความต้องการก็มีอยู่ว่า ต้องการความพ้นทุกข์ ความพ้นของบรรดาท่านพุทธบริษัทจริงๆ มี ๓ ชั้นด้วยกันคือ
(๑) สวรรค์
(๒) พรหมโลก
(๓) นิพพา
และเวลานี้ ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทท่านใดมีความปรารถนานิพพานไว้เป็นเบื้องหน้า แม้จะตายจากความเป็นคน เป็นเทวดาก็ตาม เป็นพรหมก็ตาม มีหวังพระนิพพานเป็นอย่างยิ่งทั้งนี้ก็เพราะว่าในศาสนานี้ยังมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง มีนามว่า “ พระศรีอาริยเมตไตรย ” จะตรัสไม่นานนัก สมมติว่าบรรดาท่านพุทธบริษัทเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก บนดาวดึงส์นี่เขามีเวลาอยู่ ๑,๐๐๐ ปีทิพย์ แต่ว่าท่านจะอยู่เพียง ๓๐๐ ปีทิพย์ ก็พบ พระศรีอาริย์ แล้ว เมื่อพบองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ฟังเทศน์เพียงจบเดียว คนที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ก็จะเป็นพระโสดาบัน ถ้าฟังเทศน์เพียงครั้งที่ ๒ เทวดา นางฟ้าพวกนั้นก็จะเป็นพระอรหันต์ ต่อไปเป็นอันว่า ขณะใดที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงเทศน์จบ เทวดากับนางฟ้าและพรหมเป็นพระอริยเจ้ามากว่าเป็นมนุษย์
ในการบำเพ็ญกุศลของบรรดาพุทธบริษัทวันนี้มีอะไรบ้างที่เป็นบุญเป็นกุศล ในอันดับแรก บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนตั้งใจจะมาบำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัด คำว่า “ วัด ” ก็มีทั้งพระพุทธรูป มีทั้งพระธรรม มีทั้งพระสงฆ์ การนึกถึงวัดก็คือว่านึกถึง ๓ อย่างคือ
(๑) นึกถึงพระพุทธเจ้าด้วย
(๒) นึกถึงพระธรรมด้วย
(๓) นึกถึงพระอริยสงฆ์ด้วย
การนึกถึงพระพุทธเจ้าจัดว่าเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน
การนึกถึงพระธรรมคำที่พระสวด หรือคำที่พระเทศน์เป็น ธัมมานุสสติกรรมฐาน
การนึกถึงพระสงฆ์เป็น สังฆานุสสติกรรมฐาน
กรรมฐานทั้ง ๓ อย่างนี้ ถ้าบรรดาพุทธบริษัทท่านใดต้องการมีความมั่นคงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเป็นพุทธานุสสติ นึกถึงพระพุทธเจ้าก็ดี เป็นธัมมานุสสติ นึกถึงพระธรรมก็ดี เป็นสังฆานุสสติ นึกถึงพระสงฆ์ก็ดีโดยเฉพาะไว้ กำลังใจมีความมั่นคงตรงต่อพระพุทธเจ้า หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์องค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะ อย่างนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายตายแล้วลงนรกไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องไปสวรรค์ นอกจากนั้นบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านตั้งใจไว้ว่า มาถึงวัดเราจะรับศีล ๕ ก็ดี ขึ้นชื่อว่าศีล อานิสงส์ของศีล ก็มีอยู่ว่าที่พระพุทธเจ้าตรับไว้ตอนท้ายว่า
“ สีเลนะ สุคติง ยันติ ”
ศีลเป็นปัจจัยให้เกิดบนสวรรค์
“ สีเลนะ โภคสัมปทา ”
ศีลเป็นปัจจัยให้เราเกิดไปชาติหน้า มีทิพยสมบัติมาก
“ สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ”
ศีลเป็นปัจจัยให้เข้าพระนิพพานได้โดยง่าย
รวมความว่า กำลังใจขั้นที่ ๒ ของบรรดาท่านพุทธบริษัททำให้เกิดบนสวรรค์ก็ได้ เกิดบนพรหมโลกก็ได้ บนนิพพานก็ได้
ในขั้นที่ ๓ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ตั้งใจรับรสพุทธพจน์เทศนาเป็นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันนี้เป็นตัว “ ปัญญา ” เป็นปัจจัยทำให้เข้าถึงนิพพานโดยง่ายเช่นเดียวกัน
ทางที่ดีบรรดาท่านพุทธบริษัทตัด สังโยชน์ ๓ ให้ได้จะดีมาก ค่อยๆ ทำ สังโยชน์ ๓ นะ เป็นพระโสดาบันและเวลานี้ทุกท่านได้ ๒ แล้ว คือ
(๑) นึกถึงความตาย ทุกคนถ้าไม่นึกถึงความตายจะไม่มีใครทำบุญ เพราะเกรงว่าจะตายจะไปลำบาก จึงทำบุญ อันนี้เรามีแล้ว ที่เรียกว่า “ สักกายทิฏฐิ ”
(๒) ตัด สังโยชน์ ข้อที่ ๒ วิจิกิจฉา คือ ตัดความสงสัยในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ทุกอย่างมีแล้ว ท่านตัดได้แล้ว ท่านมีความเคารพ
(๓) ก็เหลือตัวเดียว สีลัพพตปรามาส การรักษาศีลให้เคร่งครัด รักษาศีลอย่างจริงใจ อย่าให้ขาด เคยขาดมาในกาลก่อน ก็เป็นเรื่องของมัน เวลานี้เรารักษาอย่าให้ขาด บางครั้งมันจะเผลอบ้างอะไรบ้าง เป็นของธรรมดา เวลาใหม่ๆ แต่ว่าเมื่อตั้งใจรักษาจริงๆ ในไม่ช้าไม่นานไป ศีลก็จะครบถ้วยบริบูรณ์
ก่อนจะหลับให้นึกทบทวนว่า เวลานี้ศีล ๕ เรามีครบถ้วนไหม วันนี้มันบกพร่องข้อไหนบ้าง ถ้าทราบว่าบกพร่องข้อไหน คิดว่าพรุ่งนี้เราจะไม่ให้บกพร่อง พอตื่นเช้าเราคิดว่า วันนี้ศีล ๕ ของเราจะไม่ยอมให้บกพร่อง พอก่อนจะหลับก็นึกทบทวนใหม่ ทำอย่างนี้ทุกวัน
บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน อาตมาคิดว่า ไม่เกิน ๓ เดือน ทุกท่านจะมีศีลบริสุทธิ์ ถ้ามีศีลบริสุทธิ์ ก็นึกถึงใจว่าใจเราต้องการสวรรค์หรือพรหมโลก หรือว่านิพพาน ถ้าความเป็นพระโสดาบันเข้าถึงใจท่านจริงๆ ท่านจะมีความต้องการอย่างเดียวคือ นิพพาน โดยเฉพาะเพียงเท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัทถ้าตายจากความเป็นคน ก็จะลงอบายภูมิไม่ได้ จะเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหมก็ตาม ต่อไปก็นิพพานกันแน่ไม่ต้องลงมาเอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า เวลาหมดพอดี ก็ขอยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้
ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัยมีพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ทั้ง ๓ ประการ ขอจงดลบันดาลให้บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน มีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล และจงเจริญไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ หากทุกท่านปรารถนาสิ่งใด ก็ขอให้ได้สิ่งนั้นสมความปรารถนาทุกประการ อาตมภาพประทานวิสัชนามา ในธัมมิกถาก็ยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้
เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้
ผู้แต่ง
โดย : ที่พักสงฆ์โพธิ์กิ่ง
ที่อยู่ : ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
จำนวนเข้าดู : 4015
ปรับปรุงล่าสุด : 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 14:00:20
ข้อมูลเมื่อ : 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 13:57:44
สาระธรรม 10 อันดับ
การจะไปพระนิพพานได้อยู่ที่ใจของเรา ปลดวางภาระทั้งปวงได้หรือไม่
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 05-05-2567
เปิดดู : 28
นักปฏิบัติธรรมที่แท้จริง ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 30-04-2567
เปิดดู : 25
สงกรานต์ มีความหมายว่า เคลื่อน ย้าย หรือ เปลี่ยน
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 29-04-2567
เปิดดู : 13
เรื่องของพระ เรื่องของเทวดา ท่านไม่ได้ให้โทษต่อใคร
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 28-04-2567
เปิดดู : 23