เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8354 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
53 คน
ทั้งหมด
8870 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7201 รูป
ลาสิกขา
34 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

สาระธรรม

พระอรหันต์ลูกศิษย์ตั้ง

รายละเอียด


ดังนั้น..เมื่อได้ยินญาติโยมที่พยายามจะเสาะหาพระอรหันต์ โดยเฉพาะไปนำเอาคำเล่าลือมากล่าวว่า บุคคลนั้นเป็นพระอรหันต์ บุคคลนี้เป็นพระอรหันต์ กระผม/อาตมภาพจึงมีความหนักใจมาก เพราะว่าปัจจุบันนี้ "พระอรหันต์ลูกศิษย์ตั้ง" หรือ "พระอรหันต์ญาติโยมตั้ง" นั้น มีจำนวนมากต่อมากด้วยกัน
บุคคลที่กล่าวว่าครูบาอาจารย์ท่านนั้นเป็นพระอรหันต์ ครูบาอาจารย์ท่านนี้เป็นพระอรหันต์ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นฆราวาสปุถุชน บางทีศีล ๕ ก็ยังมีไม่ครบเลย พูดง่าย ๆ ว่า คุณสมบัติความเป็นชาวบ้านชั้นดียังไม่มี แล้วจะไปรู้คุณสมบัติของกัลยาณชน หรือว่าพระอริยชนได้อย่างไร ?
เหมือนกับตัวเองเรียนหนังสือยังไม่ทันจบชั้น ป.๖ แต่เที่ยวไประบุว่าครูบาอาจารย์ท่านนั้นจบปริญญาเอก ครูบาอาจารย์ท่านนี้จบปริญญาเอก โอกาสที่ผิดพลาดก็มีถึง ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์..! แล้วถ้าหากว่าท่านมั่นใจไปบอกกล่าวต่อ เกิดมีผู้คนเชื่อถือตาม ก็จะกลายเป็นการพาผู้คนให้หลงผิดตามไปด้วยเป็นจำนวนมาก
ถ้าครูบาอาจารย์ท่านนั้นเป็นพระอรหันต์จริง ก็เท่ากับว่าท่านเสมอตัว ก็คือไปแล้วได้รับฟังคำสอนต่าง ๆ จากครูบาอาจารย์เหล่านั้น นำมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองได้ แต่ถ้าครูบาอาจารย์เหล่านั้นเป็นเพียงพระอรหันต์ที่ลูกศิษย์ตั้ง โดยที่ลูกศิษย์เองก็อย่างเหมือนกับคนตาบอด เมื่อไปขี่ม้าตาบอด คือครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้บรรลุธรรมอย่างแท้จริง ก็ย่อมมีแต่จะตกเหว ตกห้วย บาดเจ็บล้มตายไปเสียเปล่า ๆ..!
จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายพึงจักสังวรว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้เราปฏิบัติในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ให้ทุกคนทบทวนศีลของตนเองทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ พยายามทำสมาธิภาวนา จนอย่างน้อยเกิดปฐมฌานละเอียดขึ้นแก่ตน เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์ในการก่อให้เกิดปัญญา จนสามารถที่จะตัดกิเลสได้
และท้ายที่สุด พยายามพิจารณาให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนได้ ทั้งตนเอง ทั้งผู้อื่น ทั้งสัตว์อื่น ตลอดจนกระทั่งทั้งโลกนี้ แล้วถอนความยินดี อยากมีอยากได้ในร่างกายนี้ ถอนความยินดีในการอยากเกิดมามีร่างกายเช่นนี้ ถอนความยินดีในการต้องการเกิดมาในโลกนี้ ถ้าหากว่าท่านสามารถทำได้ดังนี้ ต่อให้ไม่ไปเสาะหาครูบาอาจารย์ที่ไหน ท่านก็ถือเอาพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นครูบาอาจารย์ได้อย่างแท้จริง
แต่ต่อให้ท่านไปเสาะหาแล้วพบพระอรหันต์อย่างที่ต้องการ แต่ว่าเป็นการไปตามการถือมงคลตื่นข่าว ก็คือไปเพื่อให้ได้ชื่อว่าตนเองก็ไปกราบพระอรหันต์รูปนั้นมาแล้ว ไม่ได้นำเอาพระธรรมคำสอนที่ท่านมอบไว้ให้มาปฏิบัติจนเกิดประโยชน์แก่ตน ท่านก็เสียโอกาสในการได้พบพระอรหันต์ไปเปล่า ๆ แล้วถ้าไปพบพระอรหันต์ลูกศิษย์ตั้ง ซึ่งเปรียบเสมือนกับม้าตาบอด ถ้าหากว่านำทางให้กับท่านที่เป็นคนตาบอด ก็อาจจะหลงเวียนว่ายตายเกิด ทุกข์ทรมานอยู่ในวัฏสงสารนี้ไปอีกนานแสนนาน..!
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๖
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

โดย : วัดท่าขนุน

ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

จำนวนเข้าดู : 69

ปรับปรุงล่าสุด : 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566 17:00:04

ข้อมูลเมื่อ : 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566 16:59:34

 
 
 
 

สาระธรรม 10 อันดับ

การรับข่าว ควรที่จะรับอย่างมีสติ

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 01-05-2567

เปิดดู : 12

การสรงน้ำพระ

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 29-04-2567

เปิดดู : 14

พรปีใหม่ที่ดีที่สุด

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 01-01-2567

เปิดดู : 97