เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8354 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
53 คน
ทั้งหมด
8870 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7201 รูป
ลาสิกขา
34 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

สาระธรรม

บวชเป็นพระมีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุน

รายละเอียด

การบวชเป็นเรื่องที่อันตรายสุด ๆ เพราะว่าในความเป็นพระของเรา พลาดศีลตรงไหน โอกาสลงนรกมีสูงมาก

แบบเดียวกับที่พระใหม่ไปประท้วงหลวงพ่ออุปัชฌาย์ ตอนเป็นฆราวาสไปกราบเรียนถาม "หลวงพ่อ..บวชดีไหม ?" "โอ๊ยดี..รีบบวชเลย..บุญเยอะ"

บวชเข้าไป พอถึงเวลาไปถาม "หลวงพ่อ ผมทำไอ้นี่ได้ไหม ?" "ไม่ได้นะมึง..บาปตายห่าเลย..!" สรุปแล้วตอนก่อนบวชอะไรก็เป็นบุญ บวชเข้าไป มีแต่บาป ก็เพราะว่าเราบวชเข้ามาแล้ว เท่ากับว่าเราเป็นปูชนียบุคคล เป็นบุคคลที่ผู้อื่นเขากราบไหว้บูชากัน ในฐานะที่อย่างน้อย ท่านก็เป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา ก่อนบวช เราไหว้พ่อไหว้แม่ กราบพ่อกราบแม่ พอถึงเวลาบวช พ่อแม่มากราบเรา..!

เพราะอะไร ? ก็เพราะว่ากฎเกณฑ์กติกาในการยึดถือปฏิบัติของเรามีมากกว่า คือมีศีลถึง ๒๒๗ ข้อ พ่อแม่มีศีล ๕ ข้อ อย่างดีก็ไม่เกิน ๘ ข้อ เท่ากับว่า ถ้าเป็นฆราวาสทั่วไป ทำกิจการงานอย่างหนึ่ง เขาลงทุน ๕ ล้านบาท คือศีล ๕ พระเราลงทุน ๒๒๗ ล้านบาท ด้วยศีลของพระ ถ้ากิจการนั้นเจ๊ง ใครจะหมดตัวมากกว่ากัน ? ก็พระนั่นแหละ..!

จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันอย่างที่สุด ถ้ารู้ตัวว่าจะอยู่ไม่ได้ ให้รีบสึกหาลาเพศไป อย่าล่วงละเมิดพระธรรมวินัยในขณะที่เป็นพระ ไม่เช่นนั้นแล้วโทษจะติดตัวตลอดไป อย่าไปคิดว่าแสดงอาบัติแล้วเป็นอันว่าจบกัน

การที่เราละเมิดพระธรรมวินัย เหมือนกับเนื้อตัวของเราเป็นแผล การแสดงคืนอาบัติ ก็คือการหยุดการลุกลามของแผลนั้นไม่ให้กว้างออกไป แต่คราวนี้ถ้าตรงนั้นแผลหนึ่ง ตรงนี้แผลหนึ่ง ไม่นานก็เต็มตัวไปหมด คนที่มีแต่แผลทั้งตัว ไปทางไหนเขาก็รังเกียจ การบวชถึงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะว่าโอกาสขาดทุนมีมากกว่ากำไร..!

แต่ขณะเดียวกัน ถ้าท่านทั้งหลายปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กำไรมหาศาลย่อมรออยู่ข้างหน้า คนทั่วไปลงทุน ๕ ล้าน พระเราลงทุน ๒๒๗ ล้าน ถ้ากิจการงานนั้นได้กำไรเหมือน ๆ กัน ใครจะได้มหาศาลกว่ากัน ? ก็ต้องพระอีกนั่นแหละ..!

ดังนั้น..การเป็นพระของเรา มีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุน จึงควรที่จะพากเพียรพยายาม ในการที่ทำอย่างไรก็ได้ ให้เรารักษาต้นทุนของเราเอาไว้ คำว่าต้นทุนในที่นี้ก็คือ ทันทีที่บวชเสร็จ ที่วัดของเราบวชหมู่ คู่สวดเขาก็จะประกาศว่า "อุปสัมปันโน สังเฆนะ บัดนี้การอุปสมบทสำเร็จลงเป็นสงฆ์แล้ว" บุญที่จะพึงได้ทั้งหมดจากการบวช เราได้ครบถ้วนเลย แต่การอยู่ต่อต่างหากที่ทำให้กำไรหรือว่าขาดทุน

ถ้าอยู่ต่อแล้วทำผิดทำพลาด โอกาสขาดทุนมีสูงมาก เพราะว่าเราลงทุนมาก แต่ถ้าทำดี โอกาสกำไรก็มหาศาลมากกว่าญาติโยมเขาหลายเท่า สิ่งที่เราได้กำไรในระหว่างที่บวชนั่นแหละ ถ้าอยู่ต่อก็จะเป็นกำลังใหญ่ในพระพุทธศาสนา ถ้าสึกหาลาเพศไป ผลบุญอันนี้ก็จะทำให้ทางชีวิตของท่านสะดวกกว่าคนอื่นเขา

จึงเป็นเรื่องที่พวกเราควรที่จะตระหนักให้มากเอาไว้ เพราะว่าการบวชนั้นไม่ใช่ตัวเราคนเดียว อันดับแรกเลย พ่อแม่ของเรา ญาติพี่น้องของเรา รออนุโมทนาในบุญในกุศลที่เราจะได้กระทำ แล้วบรรดาท่านที่ล่วงลับไปแล้ว ก็รอบุญรอกุศลที่ลูกหลานจะบวชแล้วอุทิศไปให้

วัดวาอารามของเราจะงดงามขึ้น หรือว่าจะเสียหายก็ขึ้นอยู่กับการบวชของเรา ถ้าหากว่าทำดี ชื่อเสียงของวัดวาอารามก็จะมีมากขึ้น พระพุทธศาสนาของเราก็มั่นคงขึ้น แต่ถ้าหากว่าทำไม่ดี กระผม/อาตมภาพเจอมาแล้ว พระสองวัดเดินบิณฑบาตสวนกัน วัดหนึ่งเดินมาใกล้ โยมที่ถือขันข้าวอยู่หันหลังให้ รอจนกระทั่งเดินผ่านไป อีกวัดหนึ่งมา ถึงได้หันมาใส่บาตร ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเจอแบบนั้นเข้า ก็คงหน้าชา หรือไม่ก็ชาไปทั้งตัว..อายชาวบ้านเขา..!

เมื่อบวชเข้ามาไม่ใช่ตัวเราคนเดียวแล้ว ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเราแบกเข้ามาด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาโพนทะนาว่า "ไอ้ลูกบ้านนั้นแหกพรรษา..!" รับประกันได้..ทั้งอำเภอไปขอสาวที่ไหนก็ไม่มีใครเขาให้..! เขาถือว่าเรื่องแค่นี้ทนไม่ได้ แล้วไปมีครอบครัวได้อย่างไร ก็แปลว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเราต้องแบกไว้ด้วย

แล้วชื่อเสียงของวัดท่าขนุน หลวงปู่สายท่านทำเอาไว้ดีมาก แม้กระทั่งทุกวันนี้ ญาติโยมส่วนใหญ่ก็ยังคงเคารพหลวงปู่สุดจิตสุดใจ เราก็ต้องแบกชื่อเสียงของวัดไว้ด้วย แบกชื่อเสียงหลวงปู่ไว้ด้วย แล้วถ้าทำพลาด นอกจากตัวเราเสียหาย วัดก็เสียหาย ชื่อเสียงครูบาอาจารย์ก็เสียหาย ท้ายที่สุดก็เสียไปถึงพระพุทธศาสนา ถ้าจะว่าต่อไป เดี๋ยวพระที่ท่านบวชไม่มีอะไรจะเทศน์..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา โดยเฉพาะนาคทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่รับฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9881

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com

ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

โดย : วัดท่าขนุน

ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

จำนวนเข้าดู : 123

ปรับปรุงล่าสุด : 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 13:23:17

ข้อมูลเมื่อ : 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 13:23:17

 
 
 
 

สาระธรรม 10 อันดับ

การรับข่าว ควรที่จะรับอย่างมีสติ

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 01-05-2567

เปิดดู : 12

การสรงน้ำพระ

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 29-04-2567

เปิดดู : 14

พรปีใหม่ที่ดีที่สุด

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 01-01-2567

เปิดดู : 97