เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8361 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
53 คน
ทั้งหมด
8877 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7207 รูป
ลาสิกขา
35 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

สาระธรรม

สังขารุเปกขาญาณที่แท้จริง

รายละเอียด

ถาม : อารมณ์สังขารุเปกขาญาณ คือการรู้ตัว สติตระหนักรู้ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาใช่ไหมคะ ?
ตอบ : นั่นเป็นแค่สติ ในเมื่อสติตื่นรู้ ต้องมีปัญญาระมัดระวังไม่ให้กิเลสเข้ามากินใจเราได้ด้วย สิ่งต่าง ๆ ที่ตาได้เห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายได้สัมผัส ใจครุ่นคิด จะสร้างรัก โลภ โกรธ หลงได้อย่างไร ปัญญาจะบอกชัดเจน แล้วก็เอาสติสมาธิไประงับยับยั้ง เพื่อมิให้ครุ่นคิดปรุงแต่งขึ้นมา

อย่างที่เราว่ามาไม่ใช่สังขารุเปกขาญาณ สังขารุเปกขาญาณที่แท้จริง คือ มีปัญญาเห็นทุกอย่างเป็นธรรมดา ธรรมชาติมีปกติธรรมดาเป็นอย่างนั้น เมื่อเห็นชัดก็ปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองและบุคคลอื่น ถ้าถึงตอนนั้นก็ไม่มีเรา ไม่มีเขาอีกแล้ว

ถาม : ปล่อยวาง..?
ตอบ : ถ้ายังปล่อยวางไม่ได้ ก็ยังไม่ใช่

ถาม : คือคนละอย่างกับเฉย ๆ ชืด ๆ หรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ เฉย ๆ ชืด ๆ นั้นมีสองอย่าง อย่างแรกคือเราทรงฌานอยู่ เป็นเอกัคคตารมณ์ในฌานใดฌานหนึ่ง ส่วนอีกอย่างก็คือ ความเคยชินที่เกิดขึ้นจากอารมณ์นั้นอยู่บ่อย ๆ เราต้องแยกให้ออกว่าตอนนี้เราทรงฌานอยู่ คือ ใช้อำนาจสมาธิกดอยู่หรือเปล่า ? หรือว่าเป็นความเคยชินที่คบอารมณ์นั้นอยู่บ่อย ๆ จนไม่รู้สึกตื่นเต้นอีกแล้ว

ถาม : เราเห็นบ่อย ๆ จนชิน เราก็รู้สึกว่าธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ธรรมดาแบบ..
ตอบ : แล้วใจเรายอมรับว่าเป็นธรรมดาอย่างนั้นตลอดเวลาไหม ? ถ้ายังเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ก็ยังไม่นับว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณ สังขารุเปกขาญาณต้องทรงได้ตลอด พูดง่าย ๆ ว่า สังขารุเปกขาญาณมาแล้วไม่ถอย จะอยู่ทรงตัวอย่างนั้นไปเลย

ถาม : คือได้เรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องอื่นจะไม่มีปัญหา ?
ตอบ : ทุกอย่างจะเป็นอย่างนั้นหมดเลย มีอารมณ์ปล่อยวางได้เสมอกัน

ถาม : แล้วใช้อะไรที่เป็นความคล่องตัว พร้อมด้วยสติปัญญาที่ตั้งมั่นอยู่ตลอด ?
ตอบ : นั่นเป็นเรื่องของสติ สมาธิ และปัญญาที่เริ่มทรงตัว จากการปฏิบัติที่ต่อเนื่องของเรา สติจะเป็นตัวฉุดรั้ง สมาธิเป็นตัวหักห้าม ปัญญาเป็นตัวเห็นตามความเป็นจริง

เมื่อถึงเวลาทั้งสามอย่างนี้จะทำงานด้วยกัน สติระลึกได้เกิดขึ้น มีกำลังของสมาธิช่วยในการหักห้ามใจตัวเอง และมีปัญญารู้แจ้งเห็นจริงในคุณและโทษ ก็จะเลือกแต่สิ่งที่เป็นคุณ และเว้นในสิ่งที่เป็นโทษ ท้ายสุดพอไปถึงที่สุดแล้ว ทั้งคุณทั้งโทษก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมากระทบกระเทือนเราได้อีกแล้ว ก็จะอยู่ตรงช่วงกลางพอดี ที่เป็นอัพยากฤต จึงจะเป็นสังขารุเปกขาญาณ

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ ณ บ้านวิริยบารมี

ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

โดย : วัดท่าขนุน

ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

จำนวนเข้าดู : 775

ปรับปรุงล่าสุด : 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 12:09:54

ข้อมูลเมื่อ : 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 12:09:54

 
 
 
 

สาระธรรม 10 อันดับ

หลักธรรมของพระพุทธเจ้าตรัสว่า

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 16-05-2567

เปิดดู : 13

ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 09-05-2567

เปิดดู : 14

การรับข่าว ควรที่จะรับอย่างมีสติ

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 01-05-2567

เปิดดู : 23

การสรงน้ำพระ

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 29-04-2567

เปิดดู : 19