เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8343 รูป
สามเณร
300 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
53 คน
ทั้งหมด
8857 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7194 รูป
ลาสิกขา
35 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

สาระธรรม

ทนายแก้ต่างให้กับพระพุทธศาสนา

รายละเอียด

ระยะนี้มีข่าวคราวของพระพุทธศาสนาในด้านไม่ดีไม่งามออกมามากมาย ซึ่งอาตมาได้สรุปไปแล้วว่าเกิดจาก ๓ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรก คือ เป็นการทำลายล้างทางการเมือง สาเหตุที่สอง คือ การทำลายล้างระหว่างศาสนา สาเหตุที่สาม คือ การทำลายล้างระหว่างนิกาย

ซึ่งไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม ถ้าหากว่าบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ปฏิบัติธรรมจนมีความสามารถอย่างแท้จริง ก็ย่อมสามารถเป็นทนายแก้ต่างให้กับพระพุทธศาสนาได้ แต่ว่าเราท่านทั้งหลายยังไม่มีความสามารถที่แท้จริง ไม่สามารถที่จะแก้ต่างได้ ก็จำเป็นต้องเร่งรัดการฝึกปฏิบัติของเรา ให้เข้มข้นเข้มงวดยิ่งขึ้น ทุ่มเทเวลาให้กับการปฏิบัติมากขึ้น

ถ้าหากว่าเราดูในการแสดงยมกปาฏิหาริย์ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเหล่าเดียรถีย์ทั้งหลายได้ยินว่า พระพุทธเจ้าสั่งห้ามไม่ให้พระปิณโฑลภารทวาชะแสดงฤทธิ์ และห้ามพระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดแสดงฤทธิ์ ก็เห็นว่าเป็นโอกาสแล้วที่เราจะโค่นพระพุทธศาสนา จึงประกาศว่าจะแสดงฤทธิ์แข่งกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ปรากฏว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอบรับว่าจะแสดงฤทธิ์แข่งด้วย ณ คัณฑามพพฤกษ์ คือต้นมะม่วง เหล่าเดียรถีย์ทั้งหลายก็ให้ศิษย์ของตนโค่นต้นมะม่วงทิ้งทั้งเมือง เพื่อไม่ให้เหลือไว้ให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงฤทธิ์ได้ แต่ว่าด้วยความรู้จริงรู้รอบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อถึงเวลานายคัณฑา หรือเรียกตามสำเนียงบาลีว่านายคัณฑะ ซึ่งเป็นพนักงานเฝ้าอุทยานหลวง เห็นมะม่วงในอุทยานออกผลสุกน่ากินมาก จึงนำไปถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยแล้ว ก็ให้พระอานนท์นำเอาเม็ดมะม่วงฝังลงดิน ทรงรดด้วยน้ำล้างพระหัตถ์ ต้นมะม่วงนั้นก็โตขึ้นทันตา

นี่เป็นสิ่งที่เล่าให้ฟังว่าสาเหตุเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่อยากจะยกเป็นตัวอย่างนั่นก็คือ บรรดาพระอรหันต์ทั้งหลายมีพระสารีบุตรเถรเจ้า มีพระโมคคัลลานเถรเจ้า เป็นต้น อาสาแสดงฤทธิ์แข่งกับเหล่าเดียรถีย์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ เหล่ามหาสาวก มหาสาวิกา คือ ทั้งภิกษุและภิกษุณีที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเป็นที่ปรากฏ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตั้งให้เป็นเอตทัคคะ คือ ผู้เป็นเลิศในด้านต่าง ๆ อาสาแสดงฤทธิ์แข่งกับเดียรถีย์

พระองค์ท่านก็ทรงปฏิเสธ เหล่าสามเณร สามเณรีต่าง ๆ ทูลอาสาขอแสดงฤทธิ์ข่มเหล่าเดียรถีย์ พระองค์ท่านก็ทรงปฏิเสธ เหล่าฆราวาสชายหญิงที่ทรงอภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ อาสาแสดงฤทธิ์แข่งกับเหล่าเดียรถีย์ พระองค์ท่านก็ทรงปฏิเสธ ทรงตรัสว่าการแสดงยมกปาฏิหาริย์นั้นเป็นพุทธประเพณี ก็คือเป็นธรรมเนียมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงแสดงเอง

แม้เหล่าเดียรถีย์จะทักท้วงว่าพระองค์ท่านตรัสห้ามแล้วไม่ให้ภิกษุสงฆ์แสดงฤทธิ์ พระองค์ท่านก็กล่าวว่าแม้พระราชาทรงห้ามผู้อื่นกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็หาได้ทรงห้ามพระองค์เองไม่ ซึ่งในจุดนี้ภายหลังพระองค์ท่านก็แสดงยมกปาฏิหาริย์ข่มเหล่าเดียรถีย์จนพ่ายแพ้ไป

แต่เราจะเห็นว่า ภิกษุภิกษุณี ทั้งที่เป็นอัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก สามเณร สามเณรีน้อย ๆ ที่ยังอายุไม่ครบบวช หรือฆราวาสชายหญิงที่เป็นพุทธบริษัท ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่แท้จริง อาสาแสดงฤทธิ์ปราบเหล่าเดียรถีย์ แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้ามาเปรียบกับพวกเราในสมัยนี้ มีผู้หนึ่งผู้ใดสามารถอาสาทำหน้าที่ในการกดข่มหรือปราบปรามคนที่กำลังบ่อนทำลายศาสนาได้บ้าง ? ในเมื่อยังไม่มี ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่เราทั้งหลายต้องเร่งรัดใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้มากเข้าไว้

อันดับแรก ก็คือ ถ้ายังไม่สามารถเข้าถึงอภิญญาสมาบัติต่าง ๆ อย่างน้อยกำลังสมาธิที่สูงขึ้น ก็ทำให้เราสามารถข่มกลั้นกิเลสบางส่วนลงได้ ก็แปลว่าการปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา นั้น จะมากจะน้อย อันดับแรกก็มีผลดีที่เกิดแก่ตัวเราเอง

อันดับต่อไป ถ้าสามารถได้อภิญญาสมาบัติต่าง ๆ ก็จะเป็นที่พึ่งให้แก่คนอื่นได้ กลายเป็นบุคคลที่ยืนยันความรู้ในพระพุทธศาสนาได้ และถ้าจำเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระบรมพุทธานุญาต ก็สามารถใช้อำนาจของอภิญญาสมาบัติในการกดข่ม หรือปราบปรามผู้ที่รุกรานพระพุทธศาสนาได้

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายจึงทิ้งการปฏิบัติไม่ได้ และยังต้องปฏิบัติให้เข้มข้นยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะว่าการรุกรานพระพุทธศาสนาจะยิ่งหนักข้อขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่ามีการวางแผนกันอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ที่จะทำให้พระพุทธศาสนาตั้งอยู่ไม่ได้ในประเทศนี้

อย่าลืมว่าองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงฝากฝังภารธุระในพระพุทธศาสนา แก่บริษัททั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านทั้งหลายที่เป็นอุบาสก อุบาสิกา ปฏิญาณตนนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนจนสามารถจะยังพระพุทธศาสนานี้ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปจนครบ ๕,๐๐๐ ปี

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑

ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

โดย : วัดท่าขนุน

ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

จำนวนเข้าดู : 138

ปรับปรุงล่าสุด : 26 มกราคม พ.ศ. 2565 09:13:31

ข้อมูลเมื่อ : 26 มกราคม พ.ศ. 2565 09:13:31

 
 
 
 

สาระธรรม 10 อันดับ

หลักธรรมของพระพุทธเจ้าตรัสว่า

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 16-05-2567

เปิดดู : 31

ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า

โดย วัดท่าขนุน

ข้อมูลเมื่อ : 09-05-2567

เปิดดู : 24