ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนฝั่งด้านทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าวัดเดิมบางสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2425 ต่อมาในปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาประทับที่หน้าวัดและพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดคงคาราม" สำหรับความโดดเด่นภายในวัดอยู่ตรงที่ “ธรรมาสน์” สะท้อนถึงศิลปะไทยผสมจีน แกะสลักจากไม้ขนุนโดยฝีมือของช่างชาวจีน ปัจจุบันเก็บไว้บนศาลาการเปรียญ ต่อมา คือ “หอสวดมนต์” ภายในมีการเก็บของมีค่าของวัดไว้ 3 ชิ้น ได้แก่ ฝาบาตรมุก ตาลปัตร และปิ่นโต ซึ่งรัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่วัดและทางวัดได้เก็บรักษาไว้อยู่ในสภาพดีดังเดิม 

ส่วนที่พลาดไม่ได้คือ “มณฑปหลวงพ่อแจ่ม – หลวงพ่อแบน” ภายในยอดมณฑป บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีรอยพระพุทธบาทจำลองที่มีอายุนานกว่า 100 ปี ส่วน “หอระฆัง” ก่อสร้างอย่างประณีตสวยงาม ในขณะที่ “พระอุโบสถ” ได้รับการบูรณะใหม่ ภายในมีพระประธานปางป่าเลไลยก์ที่งดงามเป็นอย่างมาก ผนังรอบพระอุโบสถประดับภาพจิตรกรรมฝาผนังในสภาพสมบูรณ์ โดยงานจิตรกรรมนี้ แต่เดิมสันนิษฐานว่าคงมีการเขียนทั้งด้านในและด้านนอกของอาคาร แต่ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะภายในอาคารเท่านั้น โดยเขียนเต็มผนังทั้งสี่ด้าน เว้นเฉพาะช่องประตูและหน้าต่าง ผนังตอนบนเขียนภาพเทพยดามานั่งชุมนุมกัน และภาพอดีตพระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัย ส่วนผนังตอนล่าง เขียนภาพพุทธประวัติ และทศชาติชาดก งดงามสมคำร่ำลืมที่ต้องมาดูด้วยตาตัวเองเท่านั้น
ในสมัยหลวงพ่อแจ่ม รัชกาลที่ 5 เสด็จประภาสต้นลำน้ำมะขามเฒ่า มาถึงวัดเดิมบาง 18 ต.ค.2451 ประมาณ 3 โมงเช้า มีราษฎรสร้างพลับพลา ซึ่ง ร.5 เรียกวัดนี้ว่า “ วัดคงคา ” อยู่ฝั่งใต้แขวงเมืองชัยนาท หลังจาก รัชกาลที่ 5 เสด็จกลับกรุงเทพฯ เมื่อพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระศพพระองค์เจ้าอรุพงศ์ ณ พระบรมมหาราชวัง ทรงนิมนต์ให้หลวงพ่อไปในงานพระราชพิธีดังกล่าว ท่านได้ให้พระฎีกาอิ่มไปแทน ทรงถวายสิ่งของต่างๆมาให้ ดังนี้
1.เรือเป็ด
2.ปิ่นโต
3.บาตรใบใหญ่
4. พัด “ อุรุพงศ์ ” มีรูปสันตดุสิตนกยูง ร.ศ.128
5. ขันน้ำพานทองอลูมิเนียม
6. กระโถนอลูมิเนียม
และยังมาสิ่งของอื่นๆ รวม 12 อย่าง

Google Map Link
กดดู