เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8344 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
52 คน
ทั้งหมด
8859 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7193 รูป
ลาสิกขา
34 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

ข้อมูลทั่วไป

QR Code วัดลานตากฟ้า

รหัสวัด
73030022862

ชื่อวัด
วัดลานตากฟ้า

นิกาย
มหานิกาย

ประเภทวัด
วัดราษฎร์

วันตั้งวัด
วันที่ 05 เดือน ตุลาคม ปี 2374

วันรับวิสุงคามสีมา
วันที่ 02 เดือน กันยายน ปี 2497

ที่อยู่
วัดลานตากฟ้า

เลขที่
41

หมู่ที่
4

ซอย
วัดลานตากฟ้า

ถนน
ลานตากฟ้า

แขวง / ตำบล
ลานตากฟ้า

เขต / อำเภอ
นครชัยศรี

จังหวัด
นครปฐม

ไปรษณีย์
73120

เนื้อที่
38 ไร่ 2 งาน 68 ตารางวา

Line
P้hramaha Sombat

Facebook
คลิกดู

มือถือ
0812974658

อีเมล์
Lantakfa321@gmail.com

จำนวนเข้าดู : 1787

ปรับปรุงล่าสุด : 29 ธันวาคม พ.ศ. 2566 23:41:23

ข้อมูลเมื่อ : 27 กันยายน พ.ศ. 2564 20:59:46

 
 
 
 

ประวัติความเป็นมา

วัดลานตากฟ้า   ตำบลลานตากฟ้า   อำเภอนครชัยศรี   จังหวัดนครปฐม
       Wat Lan Tak Fa   Lantakfa     Nakornchaisri    Nakhornprathom

ประวัติวัดลานตากฟ้า

   วัดลานตากฟ้า เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ทราบประวัติความเป็นมาอย่างแน่ชัดว่าสร้างในยุคสมัยใด แต่เมื่อพิจารณาตามหลักฐานภายในวัดลานตากฟ้าที่ยังคงเหลืออยู่ ในปัจจุบันคือพระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินทรายแดง จากการพิจารณาตามพุทธลักษณะแล้วพบว่าน่าจะเป็นพระพุทธรูปแบบอู่ทอง ๓ ซึ่งพระพุทธรูปแบบอู่ทอง ๓ นี้ ได้รับอิทธิพลของศิลปะสมัยทวารวดี และอิทธิพลของศิลปะสมัยสุโขทัยปะปนกันอยู่ หากประมาณตามอายุและศิลปะแล้วน่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐ (ประมาณปี พ.ศ. ๒๐๐๐ เป็นต้นมา) หรือเทียบได้กับสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น

   จากการสืบค้นตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่าพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ(ต้นฉบับสมุดข่อยไทย) มีเนื้อความบรรยายตั้งแต่การสถาปนากรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา มหาดิลกภพนพรัตน์ ราชธานีบุรีรมย์ หรือ เรียกสั้นๆ ว่า กรุงศรีอยุธยา มาจนกระทั่งใกล้สิ้นสมัยของกรุงศรีอยุธยา ได้มีการกล่าวถึง บ้านลานตากฟ้า ไว้ในช่วงหนึ่งซึ่งมีใจความว่า “หลวงศรียศ” ซึ่งเป็นชาวบ้าน ลานตากฟ้า แขวงเมืองนครปฐม ได้เข้าร่วมกับสมเด็จพระชัยราชาธิราช ก่อการรัฐประหารสมเด็จพระรัษฎาธิราชกุมารในปี พ.ศ. ๒๐๗๗ และต่อมา หลวงศรียศ ได้ร่วมมือกับขุนนางอีก ๓ ท่านโค่นล้มอำนาจของขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์จนสำเร็จ จากนั้นได้ทูลอัญเชิญพระเธียรราชา พระราชอนุชาต่างพระราชมารดาของสมเด็จพระชัยราชาธิราช แล้วสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ครองแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา” การกล่าวถึงหลวงศรียศและบ้านลานตากฟ้า ในพงศาวดารฉบับนี้ เป็นหลักฐานสำคัญทำให้ทราบได้ว่า บ้านลานตากฟ้า เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น และมีบันทึกไว้ในสมุดข่อยเป็นหลักฐาน อ้างอิงอย่างชัดเจน
บ้านลานตากฟ้า ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งที่ ๒ ในเอกสารประวัติศาสตร์ คือ ในนิราศสุพรรณ ซึ่งสุนทรภู่ แต่งขึ้น เมื่อ  พ.ศ.๒๓๗๔ กล่าวถึงด่านสำคัญ หรือแดนด่าน เป็นด่านใหญ่จากช่องปากคลองโยงต่อกับแม่น้ำนครชัยศรี เป็นทางน้ำสัญจรของเรือสินค้าเพื่อเดินทางเข้าออกจากหัวเมืองฝั่งตะวันตกและกรุงเทพฯ ทำให้มีเรือจำนวนมาก ต้องหยุดที่จุดตั้งด่านมีตลาดและชุมชน และมีนายด่านเรียกว่า เจ้าตลาดปากคลอง เป็นผู้ตรวจตราและเรียกเก็บภาษีในสมัยนั้น 
   สุนทรภู่ ได้บันทึกถึงชุมชน “ลานตากฟ้า” ว่าเป็นชุมชนใหญ่  มีบ้านเรือน โรงร้านตั้งยาวตลอดคุ้งน้ำ สุนทรภู่ ให้ภาพชีวิตชาวบ้านในชุมชน ขณะกำลังตากปลาบนร้าน ซึ่งเขาเชื่อมโยงความหมายว่าเป็นที่มาของชื่อชุมชน อาจจะเรียกว่า ลานตากปลา ก็ได้ซึ่งนอกจากสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำช่วงยุคนั้นที่มีทั้งปลาและผักน้ำ อย่าง ผักบุ้ง เต็มท้องทุ่ง ใช้เป็นอาหารได้แล้ว สุนทรภู่ ได้พรรณนาถึงบ้านลานตากฟ้า เป็นโคลง ๔ สุภาพ ในนิราศสุพรรณ ไว้ดังนี้
                                ออกแควแม่น้ำปาก             คลองโยง
                         แดนด่านบ้านเรือนโรง                เรียดคุ้ง
                         ชื่อลานตากฟ้าโถง                     ทุ่งรอบ  ขอบแฮ
                         เย็นย่ำน้ำค้างฟุ้ง                        ฟากฟ้าสากลฯ
                        ชาวบ้านร้านเรือกตั้ง                    ตากปลา
                        แต่ปากว่าตากฟ้า                        เฟื่องฟุ้ง
                        กว้างขวางทร่างวัดวา                  ไว้ช่อง  คลองแฮ
                        ริมฝั่งพรั่งผักบุ้ง                          ยอดแย้มแซมไสว 

   นอกจากนี้ สุนทรภู่ ยังได้แต่งนิราศพระประธมใน พ.ศ. ๒๓๗๕ โดยกล่าวถึงการเดินทางไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์โดยการเดินทางผ่านคลองโยงทางเรือแล้วออกแม่น้ำนครชัยศรีเพื่อไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์โดยผ่านย่าน ลานตากฟ้า ในขณะที่ผ่าน บ้านลานตากฟ้า ได้แต่งกลอน เป็นกลอน ๘ มีใจความสำคัญไว้ดังนี้
                        จะออกช่องคลองโยงเห็นโรงบ้าน            เขาเรียกลานตากฟ้าค่อยพาชื่น
                        โอ้แผ่นฟ้ามาตากถึงภาคพื้น                       น่าจะยืนหยิบเดือนได้เหมือนใจ
                        เจ้าหนูน้อยพลอยว่าฟ้าตกน้ำ                      ใครช่างดำยกฟ้าขึ้นมาได้
                        แม้นแดนดินสิ้นฟ้าสุราลัย                          จะเปล่าใจจริงจริงทั้งหญิงชาย

   บ้านลานตากฟ้า ยังถูกกล่าวถึงจากเรื่องเล่าของชาวบ้านปากต่อปากอีกว่า ครั้งอดีตบริเวณนี้ยังไม่มีถนน ประชาชนใช้เรือในการเดินทาง สัญจรติดต่อค้าขาย วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุเรือล่มที่หน้าวัด ชาวบ้านช่วยผู้ประสบเหตุแล้วนำข้าวของและเสื้อผ้าขึ้นตากที่ลานวัด ซึ่งมีสิ่งของและเสื้อผ้าจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกขานว่า ลานตากผ้า เมื่อกาลเวลาผ่านไป  จึงเพี้ยนไปเป็น ลานตากฟ้า
    แม้จะมีข้อสันนิษฐานของสุนทรภู่ และเรื่องเล่าของชาวบ้าน ว่า ชื่อบ้านลานตากฟ้า อาจจะผิดเพี้ยนมาจากคำว่า ลานตากปลาบ้าง ลานตากผ้าบ้าง แต่ก็มิได้มีเอกสารหรือหลักฐานใดๆเลย ที่จะสมเหตุผลหรือพิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์ได้ว่าเป็นเช่นนั้น แต่หลักฐานเก่าแก่ที่สุดคือพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ กลับกล่าวถึงชื่อ “บ้านลานตากฟ้า” ไว้อย่างชัดเจนที่สุด ดังนั้นจึงน่าจะสรุปได้ว่า ชื่อ “บ้านลานตากฟ้า” เป็นชื่อดั้งเดิมของวัดและชุมชนนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มิได้เกิดจากความผิดเพี้ยนแต่อย่างใดเลย
    จากการศึกษาพุทธลักษณะของพระพุทธรูปเก่าบนฐานชุกชีในอุโบสถวัดลานตากฟ้า ซึ่งมีอายุราวประมาณพุทธศตวรรษที่  ๒๐ จากหลักฐานในพระราชพงศาวดารที่กล่าวถึงบ้านลานตากฟ้าว่ามีมาแต่สมัยพระชัยราชาธิราช ประมาณปี พ.ศ. ๒๐๐๐ เศษ และจากการกล่าวถึงบ้านลานตากฟ้าของสุนทรภู่ ในการแต่งนิราศพระประธมและนิราศสุพรรณ จึงพอจะสรุปได้ว่า วัดลานตากฟ้า เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาพร้อมๆกับชุมชน บ้านลานตากฟ้า มีอายุราว ๕๐๐ - ๖๐๐ ปีแล้ว

    ปัจจุบันวัดลานตากฟ้า ตั้งอยู่เลขที่ ๔๑ บ้านลานตากฟ้า ตำบลลานตากฟ้า  อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย
ที่ดินที่ตั้งวัดลานตากฟ้ามีเนื้อที่      ๓๘  ไร่          ๒    งาน         ๖๘      ตารางวา


อาณาเขต  ของวัดลานตากฟ้า ในปัจจุบัน
                                  ทิศเหนือจรดคลองโยง
                                    ทิศใต้จรดที่ดินเอกชน
                                    ทิศตะวันออกจรดถนนชลประทาน
                                    ทิศตะวันตกจรดแม่น้ำนครชัยศรี

วัดลานตากฟ้า ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรกไม่ทราบแน่ชัด ครั้งปัจจุบัน เมื่อ ๕ ฯ ๑๐  ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่  ๒  กันยายน  พ.ศ. ๒๔๙๗  โดยมีเขตสีมา โดยความกว้าง ๔๐ เมตร โดยความยาว ๖๐ เมตร

ประวัติเจ้าอาวาสวัดลานตากฟ้า

   เมื่อกล่าวถึงวัดลานตากฟ้า ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งตามประวัตินั้นเป็นวัดเก่าแก่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐ หรือประมาณกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ย่อมจะเป็นวัดซึ่งมีอดีตเจ้าอาวาสหรือรักษาการเจ้าอาวาส ปกครองวัดสืบต่อกันมาจำนวนหลายรูป แต่อาจจะเป็นเพราะมิได้มีการจดบันทึกไว้หลักฐาน จึงทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีเจ้าอาวาสนามว่าอะไรบ้างและมีจำนวนมากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่สืบค้น สอบถามจากผู้เฒ่าผู้แก่และเจ้าอาวาสในลำดับต่อๆมา พบว่ามีรายนามเจ้าอาวาสซึ่งได้ปกครองวัดลานตากฟ้า มาแล้ว ที่มีปรากฏแน่ชัดตามลำดับดังนี้
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๑        พระอาจารย์โต   มีบันทึกไว้ว่าได้เป็นเจ้าอาวาสแต่ไม่ทราบฉายาและประวัติที่แน่ชัด ว่าเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ.ใด ถึง พ.ศ.ใด
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๒        พระอาจารย์จุ้ย    มีบันทึกไว้ว่าได้เป็นเจ้าอาวาสแต่ไม่ทราบฉายาและประวัติที่แน่ชัด ว่าเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ.ใด ถึง พ.ศ.ใด
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๓        พระอาจารย์ไป๋    มีบันทึกไว้ว่าเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๔๕๔ –  ๒๔๕๖ ไม่ทราบฉายาและประวัติอื่นๆที่ชัดเจน
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๔        พระอธิการบุญมา    จนฺทสุวณฺโณ    ( บุญมา  สมเชื้อเวียง )  เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๔๕๖ –  ๒๔๙๓
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๕        พระมหาฟัก (สุกฺกธมฺโม) กรรณวัฒน์ เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๔๙๓ –  ๒๕๐๘
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๖        พระอาจารย์ส่ง (อนาลโย ) นามสมจิตร  เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๕๑๐ –  ๒๕๑๓
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๗       พระอธิการสุรพล  (อุพฺภโต ) โปษยวัติ   เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๕๑๓ –  ๒๕๑๕
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๘        พระครูประโชติธรรมมาภรณ์  ( สังวาลย์  โชติธมฺโม )จันทร์คงวงษ์  เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๕๑๕ –  ๒๕๔๒
   เจ้าอาวาสรูปที่          ๙        พระครูปฐมกิตติวรรณ  ( กิตติ   กิตฺติวณฺโณ ) นิลสว่าง  เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่  พ.ศ. ๒๕๔๓ –  ปัจจุบัน

 ประวัติ พระพุทธโสภณ พระประธานในอุโบสถวัดลานตากฟ้า

   ตามประวัติแล้ววัดลานตากฟ้าเป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา มีพระประธานในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา  เป็นพระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง ซึ่งพระพุทธรูปศิลปะอู่ทองนั้นสามารถแบ่งได้เป็น ๓ ลักษณะดังนี้
   พระพุทธรูปอู่ทอง ๑ ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของทวารวดี และขอมปะปนอยู่ร่วมกัน ได้แก่ พระพุทธรูปที่มีพระพักตร์เป็นแบบพื้นเมือง คือ ที่มีพระพักตร์ สี่เหลี่ยม ขมวดพระเกศาเล็ก พระรัศมีเป็นตุ่มเล็กๆ ชายสังฆาฏิเป็นแผ่นใหญ่ปลายตัดแบบตัดตรง
   พระพุทธรูปอู่ทอง ๒ ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของขอมชัดเจนที่สุด ลักษณะที่สำคัญได้แก่ พระพักตร์สี่เหลี่ยม สีพระพักตร์ถมึงทึง ขมวด พระเกศาเล็ก มีไรพระศก (แนวที่ปรากฏอยู่ระหว่างพระนลาฏและขมวดพระเกศา) พระรัศมีเป็นเปลว ชายสังฆาฏิเป็นแผ่นใหญ่ปลาย แบบตัดตรง นิยมทำพระพุทธรูปที่มีพระชงฆ์เป็นสันที่เรียกว่า “ พระแข้งคม ” ประทับนั่งเหนือฐานที่เว้าเป็นร่อง
   พระพุทธรูปอู่ทอง  ๓ ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของสุโขทัย ลักษณะโดยรวมคล้ายกับอู่ทอง ๒ คือ มีไรพระศก พระชงฆ์เป็นสันที่เรียกว่า “ พระแข้งคม ” ประทับนั่งเหนือฐานที่เว้าเป็นร่อง แต่จะมีเปลวพระรัศมีสูงมากกว่ายุคอื่นๆ เป็นพิเศษ
   พระพุทธโสภณ  พระประธานในอุโบสถวัดลานตากฟ้า เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินทรายแดง พุทธลักษณะงดงาม พระพักตร์เรียว พระสังฆาฏิเป็นแบบเขี้ยวตะขาบ คล้ายกับศิลปะสุโขทัย พุทธลักษณะเช่นนี้จึงมีลักษณะเข้ากับศิลปะอู่ทอง ๓ ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐ พระพุทธรูปลักษณะเช่นนี้พบจำนวนมากในจังหวัดราชบุรี อาจเพราะมีพระพักตร์ที่งดงาม จึงได้รับการถวายพระนามว่า พระพุทธโสภณ เพราะคำว่าโสภณหมายถึง ความงดงาม
   พระพุทธโสภณ ประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถหลังเดิม ซึ่งอุโบสถหลังเดิมนั้นมีลักษณะเป็นทรงเรือสำเภา ตามความเชื่อในสมัยกรุงศรีอยุธยา อุโบสถเป็นที่นำพากุลบุตรทั้งหลายก้าวข้ามไปสู่พระนิพพานโดยการลงเรือเพื่อจะข้ามท้องน้ำอันกว้างใหญ่คือห้วงกิเลสตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาที่ชื่อว่า โอฆะ แปลว่า ห้วงน้ำ คือ กิเลส มี ๔ ประการ คือ
   ๑.       กาโมฆะ          โอฆะ คือ กาม
   ๒.       ภโวฆะ            โอฆะ คือ ภพ
   ๓.       ทิฏโฐฆะ          โอฆะ คือ ทิฐิ
   ๔.       อวิชโชฆะ        โอฆะ คือ อวิชชา

               โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำแห่งการเวียนว่ายตายเกิด หรือหมายถึงกิเลสอันเปรียบเหมือนกระแสน้ำที่ท่วมใจสัตว์โลก หากข้ามโอฆะ ห้วงน้ำแห่งสังสารวัฏได้ ก็ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในห้วงน้ำนี้อีก เพราะได้ข้ามไปสู่ฝั่ง คือ พระนิพพานได้แล้ว  รูปแบบของอุโบสถสมัยกรุงศรีอยุธยาจึงนิยมสร้างให้มีลักษณะคล้ายเรือสำเภาเป็นเพราะความเชื่อว่าจะนำไปสู่พระนิพพานได้
   พระพุทธโสภณ เป็นพระพุทธรูปแกะจากหินทรายแดง มีขนาดค่อนข้างใหญ่คือมีขนาดหน้าตัก ๑๐๙ เซนติเมตร ความสูงขององค์พระ ๑๕๐   เซนติเมตร เมื่ออุโบสถเก่าชำรุดทรุดโทรลง เจ้าอาวาสวัดลานตากฟ้าในขณะนั้นจึงดำริให้มีการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น และได้อัญเชิญพระพุทธโสภณ จากอุโบสถเก่ามายังอุโบสถใหม่ แต่ด้วยเหตุที่องค์พระมีอายุเก่าแก่มาก จึงมีบางส่วนที่เกิดความชำรุดไป เช่น พระหัตถ์และพระรัศมีจึงมีการบูรณะซ่อมแซมเรื่อยมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้มีการซ่อมแซมครั้งใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากพบว่าเกิดการชำรุดเสียหายของพระอุระและพระหัตถ์ การบูรณะซ่อมแซมครั้งนี้มีช่างผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากรและบุคลากรจากช่างทองหลวงเป็นผู้ดูแลบูรณะซ่อมแซม มีการลงรักปิดทองคำแท้จนงดงามเหลืองอร่ามทั้งองค์
   เมื่อวันที่  ๒๙  มีนาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๘ มีการฉลองสมโภชพระพุทธโสภณและยกพระเศวตฉัตรขึ้นกางกั้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาด้วย พระพุทธโสภณพระประธานภายในอุโบสถวัดลานตากฟ้า เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่สาธุชนทั้งหลาย จึงได้มาสักการบูชากราบไหว้ ขอพร เป็นประจำ เมื่อได้ขอพรแล้วได้สมปรารถนา ก็มักจะนำ ไข่ต้ม ขนมจีน น้ำยาใส่หาบมาถวาย หรือนำละครรำ มาถวาย ณ อุโบสถวัดลานตากฟ้า ซึ่งทางวัดลานตากฟ้า ก็จะจัดให้มีงานนมัสการปิดทองในวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ ของทุกๆปี

 

เอกสารเกี่ยวกับวัด 1 : ประวัติวัดลานตากฟ้า (53.9 kb)

เอกสารเกี่ยวกับวัด 2 : ประวัติพระประธานในอุโบสถ (34.76 kb)

เอกสารเกี่ยวกับวัด 3 : ประวัติเจ้าอาวาส (45.48 kb)

แผนที่ Google Map

Google Map Link
กดดู

รายการพระ

พระครูปฐมกิตติวรรณ (กิตติ) กิตฺติวณฺโณ

ตำแหน่ง : เจ้าอาวาส

ข้อมูลเมื่อ : 05-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-02-2565

พระมหาสมบัติ ธมฺมิโก

ข้อมูลเมื่อ : 05-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 19-01-2567

พระประสิทธิ์ สิทฺธิธมฺโม

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระประกอบ ติกฺขปญฺโญ

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระกณิกนันต์ จนฺทูปโม

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระวุฒิชัย ปญฺญาวชิโร

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระชาญ ฌานวโร

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระวสันต์ มหาวีโร

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระนฤเบศร์ อินฺทวํโส

ข้อมูลเมื่อ : 06-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระกมล วีรทตฺโต

ข้อมูลเมื่อ : 07-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 20-10-2566

พระสันติ กิตฺติโก

ข้อมูลเมื่อ : 07-10-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระประยุทธ กตธมฺโม

ข้อมูลเมื่อ : 05-12-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 24-01-2565

พระวิจิตร อภิวฑฺฒโน

ข้อมูลเมื่อ : 06-12-2564

ปรับปรุงล่าสุด : 25-01-2565

พระสุรินทร์ ชุติเกตุ

ข้อมูลเมื่อ : 23-01-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 24-01-2565

พระนภสินธุ์ สีลเตโช

ข้อมูลเมื่อ : 27-01-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระชาตรี ธมฺมโชโต

ข้อมูลเมื่อ : 16-07-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระธีรการต์ สุทฺธญาโณ

ข้อมูลเมื่อ : 16-07-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 16-07-2565

พระภานุเดช กิตฺติปญฺโญ

ข้อมูลเมื่อ : 16-07-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 11-08-2566

พระอนุรักษ์ ฐิตนุรกฺโป

ข้อมูลเมื่อ : 16-07-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 16-07-2565

พระวีรพงษ์ จารุวํโส

ข้อมูลเมื่อ : 17-07-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 17-07-2565

พระปิยทัศน์ ฐิตฺสทฺโธ

ข้อมูลเมื่อ : 17-07-2565

ปรับปรุงล่าสุด : 17-07-2565

ข่าวประชาสัมพันธ์จากวัด

มอบเครื่องอุปโภคบริโภค

ข้อมูลเมื่อ : 01-11-2564

เปิดดู 809 ครั้ง

เทศกาลงานบุญประเพณี

ยังไม่มีข้อมูลเทศกาลงานบุญประเพณี

ปูชนียวัตถุสถาน

ยังไม่มีข้อมูลปูชนียวัตถุสถาน

วีดีโอพระพุทธศาสนา

ยังไม่มีข้อมูลวีดีโอพระพุทธศาสนา

สาระธรรม

ยังไม่มีข้อมูลสาระธรรม

สื่อมีเดีย

ยังไม่มีข้อมูลสื่อมีเดีย

สำนักปฏิบัติธรรม

ยังไม่มีข้อมูลสำนักปฏิบัติธรรม

ทรัพย์สินของวัด

ยังไม่มีข้อมูลทรัพย์สินของวัด

โครงการและกิจกรรมเด่น

ยังไม่มีข้อมูลโครงการและกิจกรรมเด่น

ทำบุญกับวัด

ยังไม่มีข้อมูลทำบุญกับวัด