"วัดใหม่คูเมือง" ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๑๑๐ บ้านคูเมือง หมู่ที่ ๒ ตำบลทุ่งคลี อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัด มีเนื้อที่ ๑๘ ไร่ ๒ งาน ๘๕ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จดที่ดินเอกชน ทิศใต้ จดคลองคูเมือง ทิศตะวันออก จดถนนสาธารณะ ทิศตะวันตก จดที่ดินเอกชน
          อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๖.๕๐ เมตร ยาว ๑๐.๕๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หอสวดมนต์ กว้าง ๑๒.๕๐ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กุฏิสงฆ์ จำนวน ๕ หลัง เป็นตึก ๑ หลัง วิหาร กว้าง ๓.๕๐ เมตร ยาว ๔.๕๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๒ นอกจากนี้มีศาลาธรรมสังเวช ๑ หลัง และฌาปนสถาน ๑ หลัง กว้าง ๘.๓๐ เมตร ยาว ๑๐ เมตร
          ปูชนียวัตถุ มี พระปรางค์จังหวัดสิงห์บุรี มีสภาพองค์พระกับเศียรพระขาดจากกัน ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อหิน” นำมาประดิษฐานในวิหาร มีความศักดิ์สิทธิ์มากเป็นที่เคารพนับถือของขาวบ้าน สันนิฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
          วัดใหม่คูเมือง ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒ ชื่อของวัดตั้งตามชื่อหมู่บ้านคูเมือง ซึ่งมีคูเมืองเป็นคลองลักษณะวงกลมมีเกาะกลาง เนื้อที่ประมาณ ๑๐๐ ไร่เศษ กรมศิลปากรได้มาสำรวจพบว่าเป็นชุมชนโบราญ มีคูน้ำล้อมรอบ ในเกาะกลางมีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ มีการขุดค้นในเกาะกลางพบโครงกระดูกเก่าแก่ ที่แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย วัดตั้งอยู่ริมคูเมือง รอบเกาะด้านนอก ด้านทิศเหนือ ชาวบ้านได้ริเริ่มสร้างวัดร่วมกัน ได้แก่ นายสอง สุขใส, นายไม้ อ่วมประดิษฐ์,นางสาวสาหร่าย ทองสุข,นายเรียน โพธิ์ศรี, พร้อมด้วยชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกุฏิไม้มุงสังกะสี จำนวน ๓ หลัง แล้วนิมนต์พระปลิว มาจากอำเภอบางระจันมาเป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ สมัยพระสวิงได้สร้างกุฏิอีก ๒ หลัง และสร้างศาลาดิน ๑ หลัง พระช่วงเป็นเจ้าอาวาส ได้สร้างอุโบสถและศาลาไม้ พื้นไม้ มุงสังกะสี สมัยพระครูทองหล่อเป็นเจ้าอาวาสได้สร้างหอสวดมนต์ และฌาปนสถาน แต่ยังไม่เสร็จ ต่อมาสมัยพระครูสิทธิมงคลธรรมเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๗ ท่านได้รื้อกุฏิไม้ ๕ หลัง ย้ายมาสร้างใหม่เป็นก่ออิฐถือปูน ๒ ชั้น จำนวน ๕ หลัง สร้างล้อมรอบหอสวดมนต์ ๒ ด้าน คือ ด้านทิศใต้และตะวันตก สร้างหอสวดมนต์และฌาปนสถานจนแล้วเสร็จ แล้วสร้างศาลาการเปรียญขึ้นใหม่และซ่อมแซมอุโบสถ เปลี่ยนไม้ เครื่องบน ไม้ระแนงและมุงกระเบื้องหลังคาใหม่จนอยู่ในสภาพดี สร้างวิหารใหม่สำหรับประดิษฐาน”หลวงพ่อหิน” ให้ชาวบ้านสัการะบูชา
              ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๕๙๗
       การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ ๑. พระปลิว พ.ศ.๒๔๗๖-๒๔๗๙ ๒. พระสวิง พ.ศ.๒๔๗๙-๒๔๒๕ ๓. พระช่วง พ.ศ.๒๔๘๗-๒๔๙๒ ๔. พระครูทองหล่อ กมฺมสิทฺธโส พ.ศ.๒๔๙๒-๒๕๒๕ ๕. พระครูสุทธิมงคลธรรม พ.ศ.๒๕๓๕-๒๕๔๙ ๖. พระอธิการไพบูลย์ ปิยสีโล พ.ศ.๒๕๕๑-๒๕๖๐ พระวิโรจน์ ปภากโร รักษาการเจ้าอาวาส จนถึง ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาส จนถึงปัจจุบันนี้