



วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1454 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1623 วัด
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8215 รูป
สามเณร
295 รูป
แม่ชี
86 รูป
ศิษย์วัด
38 คน
บุคคลทั่วไปชาย
42 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
52 คน
ทั้งหมด
8728 รูป/คน
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
46 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
75 รูป/คน
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7076 รูป
ลาสิกขา
42 รูป
มรณภาพ
12 รูป
ข้อมูลทั่วไป
QR Code วัดท่าพูด
รหัสวัด
ชื่อวัด
วัดท่าพูด
นิกาย
มหานิกาย
ประเภทวัด
วัดราษฎร์
วันตั้งวัด
ปี 500
วันรับวิสุงคามสีมา
ปี 500
ที่อยู่
วัดท่าพูด ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม
เลขที่
78
หมู่ที่
9
ซอย
-
ถนน
-
แขวง / ตำบล
ไร่ขิง
เขต / อำเภอ
สามพราน
จังหวัด
นครปฐม
ไปรษณีย์
73210
เนื้อที่
37 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา
คุณสมบัติวัด
เป็นโรงเรียนการกุศลของวัด
เป็นพิพิธภัณฑ์
เป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อปต.)
จำนวนเข้าดู : 2010
ปรับปรุงล่าสุด : 15 กันยายน พ.ศ. 2565 16:02:11
ข้อมูลเมื่อ : 15 กันยายน พ.ศ. 2564 00:00:00
ประวัติความเป็นมา
� � � � �วัดท่าพูดตั้งอยู่ที่ตำบลไร่ขิง เลขที่ ๗๘� หมู่ที่ ๙� อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม� สมัยก่อนตำบลไร่ขิงนี้ แต่เดิมมีอยู่ ๒ ตำบล คือ ตำบลไร่ขิง และ ตำบลท่าพูด ต่อมาทางราชการได้รวมเข้าเป็นตำบลเดียวกันในปี พ.ศ.๒๔๖๐ จึงเหลือแค่เพียงตำบลเดียว คือ ตำบลไร่ขิง จึงทำให้ ตำบลไร่ขิง มี ๒ วัด คือ วัดไร่ขิง และ วัดท่าพูด� วัดท่าพูดนี้ พอจะสืบได้ว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแก่พม่า ประชาชนและพลเมืองชาวกรุงศรีอยุธยา ต้องอพยพครอบครัวลงมาทางใต้เป็นกลุ่ม ซึ่งในจำนวนนี้มีพระราชาคณะร่วมเดินทางมาด้วยรูปหนึ่ง ซึ่งชาวกรุงศรี เรียกท่านว่า พระอาจารย์รด เหตุที่ชาวกรุงศรีหนีมาทางใต้นี้ก็เนื่องจากบริเวณลุ่มแม่น้ำท่าจีน คือตั้งแต่จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร เป็นดินแดนแห่งความสงบ ซึ่งทัพพม่านั้นไม่ชำนาญการเดินทัพมาทางนี้ เมื่ออพยพมาถึงกลางทุ่งนาแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในท้องที่ตำบลกระทุ้มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม� จึงพร้อมใจกันตั้งหลักฐานบริเวณนั้น และได้ร่วมกันช่วยสร้างสำนักสงฆ์ชั่วคราว เนื่องจากทุ่งนาแห่งนี้ เป็นที่ดอน จึงได้ช่วยกันขุดสระขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง สำหรับใช้สอยในดูแห้งแล้ง ที่ตรงนั้น บัดนี้เรียกว่า “หนองรี” ซึ่งปัจจุบันนี้กลายเป็นทุ่งนาไปหมดแล้ว
� � � �ในขณะนั้น วัดท่าพูด กำลังจะกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ชาวบ้านวัดท่าพูดจึงไปอาราธนามาจำพรรษาที่ วัดท่าพูด พระอาจารย์รดก็รับอาราธนาด้วยความเต็มใจ จึงมาจำพรรษามาอยู่ที่ วัดท่าพูด พร้อมกับประชาชนที่อพยพมาด้วยกัน ทั้งหมดจึงมารวมกันกลุ่มกันและรวมกันปลูกบ้านอาศัยอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน� ในขณะที่พระอาจารย์รดมาอยู่ที่ วัดท่าพูด ปรากฏว่ากุฏิสงฆ์ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ต้องทำการซ่อมแซมส่วนอุโบสถนั้น มีเถาวัลย์ขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งส่อให้เห็นว่า ขาดผู้ปกครองดูแลรักษา� แต่เมื่อสงครามสงบลง หลังจากที่พระเจ้าตากกู้ชาติได้ พระองค์ได้ทรงคิดรวบรวมพระราคณะที่แตกกระจายไปให้กลับมาอยู่พระอารามหลวงในกรุงธนบุรี จึงให้ทหารออกตามหาจนมาพบกับพระอาจารย์รดที่วัดท่าพูด แต่พระอาจารย์รดได้บอกกับเหล่าทหารว่า ให้ไปบอกกับพระเจ้าด้วยว่า จะขอจำพรรษาอยู่ที่นี่ เพราะท่านรับอาราธนาจากชาวบ้านที่นี่ แล้วต้องการเป็นที่พึ่งทางใจแก่ชาวบ้านในยามที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย เมื่อพระเจ้าตากทรงทราบตามประสงค์ของพระอาจารย์รด จึงได้พระราชทานเรือกัญญา ๒ รำ คานหาม ๑ อัน กระโถนและกาน้ำลายเทพพนม อย่างละ ๑ ชิ้น มาถวายเป็นเครื่องประดับเกียรติยศ
��������� ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับการสร้างวัดท่าพูด คือ อุโบสถที่พระอาจารย์รดมาพบครั้งแรกนั้น อาจจะเป็นหลังที่ ๒ ก็ได้ ทั้งนี้มีข้อสันนิษฐานว่า ตามริมแนวฝั่งแม่น้ำวัด ซึ่งห่างออกไปประมาณ ๓๐ เมตร ท่านผู้เฒ่าเล่าว่า มีรากฐานเจดีย์ และรากฐานการปลูกสร้างอยู่เป็นจำนวนมากและตรงบริเวณนั้นก็เป็นที่ดินดอนกว่าที่อื่น� แต่บัดนี้ได้พังลงทลายหมดแล้วซึ่งน่าจะเกิดจากที่ตลิ่งพัง จึงได้ย้ายมาสร้างหลังใหม่ที่พระอาจารย์รดมาอยู่ และยังมีข้อสันนิษฐานว่า หากบริเวณตรงที่ปลูกสร้างโรงลิเกหน้าอุโบสถหลังเดิมจริงเข้าใจว่าอิฐที่ใช้ในการก่อสร้างชาวบ้านคงจะทำและเผากันเอง เพราะบริเวณตรงที่ปลูกโรงลิเกเมื่อก่อนมีสระใหญ่อยู่สระหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า� สระบัว จึงเข้าใจว่าชาวบ้านคงจะขุดดินตรงนี้เอาไปปั้นเป็นอิฐก่อสร้างอุโบสถ��
- ลำดับเจ้าอาวาส
๑. หลวงพ่อรด
๒. หลวงพ่อเทศ�
๓. หลวงพ่อมาก�
๔.�หลวงพ่อจ้อย
๕. หลวงพ่อแก้ว
๖. หลวงพ่อชื่น
๗. พระอธการเเช่ม
๘.�พระปลัดผล�
๙. พระอาจารย์โรย�
๑๐.�พระครูพิศาลสาธุวัฒน์� (หลวงพ่อโหย)� �
๑๑. พระครูวรดิตถานุยุต (รูปปัจจุบัน)
�� � � �ในขณะนั้น วัดท่าพูด กำลังจะกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ชาวบ้านวัดท่าพูดจึงไปอาราธนามาจำพรรษาที่ วัดท่าพูด พระอาจารย์รดก็รับอาราธนาด้วยความเต็มใจ จึงมาจำพรรษามาอยู่ที่ วัดท่าพูด พร้อมกับประชาชนที่อพยพมาด้วยกัน ทั้งหมดจึงมารวมกันกลุ่มกันและรวมกันปลูกบ้านอาศัยอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน� ในขณะที่พระอาจารย์รดมาอยู่ที่ วัดท่าพูด ปรากฏว่ากุฏิสงฆ์ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ต้องทำการซ่อมแซมส่วนอุโบสถนั้น มีเถาวัลย์ขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งส่อให้เห็นว่า ขาดผู้ปกครองดูแลรักษา� แต่เมื่อสงครามสงบลง หลังจากที่พระเจ้าตากกู้ชาติได้ พระองค์ได้ทรงคิดรวบรวมพระราคณะที่แตกกระจายไปให้กลับมาอยู่พระอารามหลวงในกรุงธนบุรี จึงให้ทหารออกตามหาจนมาพบกับพระอาจารย์รดที่วัดท่าพูด แต่พระอาจารย์รดได้บอกกับเหล่าทหารว่า ให้ไปบอกกับพระเจ้าด้วยว่า จะขอจำพรรษาอยู่ที่นี่ เพราะท่านรับอาราธนาจากชาวบ้านที่นี่ แล้วต้องการเป็นที่พึ่งทางใจแก่ชาวบ้านในยามที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย เมื่อพระเจ้าตากทรงทราบตามประสงค์ของพระอาจารย์รด จึงได้พระราชทานเรือกัญญา ๒ รำ คานหาม ๑ อัน กระโถนและกาน้ำลายเทพพนม อย่างละ ๑ ชิ้น มาถวายเป็นเครื่องประดับเกียรติยศ
��������� ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับการสร้างวัดท่าพูด คือ อุโบสถที่พระอาจารย์รดมาพบครั้งแรกนั้น อาจจะเป็นหลังที่ ๒ ก็ได้ ทั้งนี้มีข้อสันนิษฐานว่า ตามริมแนวฝั่งแม่น้ำวัด ซึ่งห่างออกไปประมาณ ๓๐ เมตร ท่านผู้เฒ่าเล่าว่า มีรากฐานเจดีย์ และรากฐานการปลูกสร้างอยู่เป็นจำนวนมากและตรงบริเวณนั้นก็เป็นที่ดินดอนกว่าที่อื่น� แต่บัดนี้ได้พังลงทลายหมดแล้วซึ่งน่าจะเกิดจากที่ตลิ่งพัง จึงได้ย้ายมาสร้างหลังใหม่ที่พระอาจารย์รดมาอยู่ และยังมีข้อสันนิษฐานว่า หากบริเวณตรงที่ปลูกสร้างโรงลิเกหน้าอุโบสถหลังเดิมจริงเข้าใจว่าอิฐที่ใช้ในการก่อสร้างชาวบ้านคงจะทำและเผากันเอง เพราะบริเวณตรงที่ปลูกโรงลิเกเมื่อก่อนมีสระใหญ่อยู่สระหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า� สระบัว จึงเข้าใจว่าชาวบ้านคงจะขุดดินตรงนี้เอาไปปั้นเป็นอิฐก่อสร้างอุโบสถ��
- ลำดับเจ้าอาวาส
๑. หลวงพ่อรด
๒. หลวงพ่อเทศ�
๓. หลวงพ่อมาก�
๔.�หลวงพ่อจ้อย
๕. หลวงพ่อแก้ว
๖. หลวงพ่อชื่น
๗. พระอธการเเช่ม
๘.�พระปลัดผล�
๙. พระอาจารย์โรย�
๑๐.�พระครูพิศาลสาธุวัฒน์� (หลวงพ่อโหย)� �
๑๑. พระครูวรดิตถานุยุต (รูปปัจจุบัน)
�
�
แผนที่ Google Map
Google Map Link
กดดู
รายการพระ
พระครูวรดิตถานุยุต (สังเวย) คเวสโก
ตำแหน่ง : เจ้าอาวาส
ข้อมูลเมื่อ : 01-10-2564
ปรับปรุงล่าสุด : 19-10-2565
ข่าวประชาสัมพันธ์จากวัด
เทศกาลงานบุญประเพณี
ยังไม่มีข้อมูลเทศกาลงานบุญประเพณี
ปูชนียวัตถุสถาน
วีดีโอพระพุทธศาสนา
ยังไม่มีข้อมูลวีดีโอพระพุทธศาสนา
สาระธรรม
ยังไม่มีข้อมูลสาระธรรม
สื่อมีเดีย
ยังไม่มีข้อมูลสื่อมีเดีย
สำนักปฏิบัติธรรม
ยังไม่มีข้อมูลสำนักปฏิบัติธรรม
ทรัพย์สินของวัด
ยังไม่มีข้อมูลทรัพย์สินของวัด
โครงการและกิจกรรมเด่น
งานคณะสงฆ์ ๖ ด้าน เเละงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลไร่ขิง ประจำเดือน พฤษภาคม
ข้อมูลเมื่อ : 22-05-2566
งานคณะสงฆ์ ๖ ด้าน เเละงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลไร่ขิง
ข้อมูลเมื่อ : 04-05-2566
ทำบุญกับวัด
ยังไม่มีข้อมูลทำบุญกับวัด