เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8348 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
52 คน
ทั้งหมด
8863 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7196 รูป
ลาสิกขา
34 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

ปูชนียวัตถุสถาน

นกนางแอ่นในวิหารหลวงปู่แก้ว

รายละเอียด
นกนางแอ่นในวิหารหลวงปู่แก้ว ความเป็นมาของนกนางแอ่น ที่เข้ามาอาศัยพึ่งใบบุญอยู่ในพระวิหารที่บรรจุศพของพระเทพสาครมุนี(หลวงปู่แก้ว) นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งตามธรรมชาติแล้วคงมีไม่มากนัก ที่นกชนิดนี้จะเข้ามาอยู่อาศัยปะปนอยู่กับมนุษย์ หรือสัตว์อื่น ในสถานที่ที่พลุกพล่านไปด้วยหมู่ชนมากมาย พร้อมด้วยกลิ่นธูป ควันเทียนที่ลอยคละคลุ้งอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างยิ่ง ที่นกนางแอ่นเหล่านี้ สามารถอาศัยอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อนเป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้ว ไม่หนีไปไหน กลับเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนแน่นพระวิหารไปหมด แรงจูงใจที่ทำให้นกเหล่านี้อาศัยอยู่ได้ อย่างแรกก็คือความปลอดภัยจากมนุษย์และสัตว์ อีกประการหนึ่งก็คือความเมตตาปราณีที่มีอยู่ในจิตใจของคนที่อยู่ในบริเวณนั้น และพร้อมที่จะปกป้องคุ้มครองนกเหล่านี้ไว้ โดยไม่ให้ใครเข้ามารบกวนหรือทำร้ายมันนั้นเอง โดยเฉพาะนกนางแอ่นเหล่านี้ ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในสมัยที่พระเดชพระคุณพระเทพสาครมุนีหรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า หลวงปู่แก้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธิวาตวราราม และอดีตเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครท่านยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่แก้ว ท่านเป็นพระที่มีจิตใจเปรียบไปด้วยเมตตาธรรมอันสูงส่งเพียบพร้อมไปด้วยสีลาอาจาริยวัตร์ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีปฏิปาทาน่าเลื่อมใสศรัทธาต่อผู้ที่ได้พบเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้สร้างคุณงามความดีและคุณประโยชน์ ไว้ในวัดสุทธิวาตวรารามมากมาย จนเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของประชาชนทั่วไป โดยไม่ลืมเลือนไปจากจิตใจของเขาเหล่านั้นเลยสิ่งเหล่านี้เอง ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นกนางแอ่นเหล่านี้ เข้ามาอาศัยพี่งใบบุญและบารมีของหลวงปู่แก้วและที่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ก็เพราะนกนางแอ่นเหล่านี้ เข้ามาอาศัยอยู่ในพระอุโบสถครั้งแรก ตรงกับวันสำคัญ คือวันคล้ายวันเกิดของท่านพอดี จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
                   วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่แก้ว ซึ่งตามปกติคณะศิษยานุศิษย์ พ่อค้า ประชาชน และผู้ที่เคารพนับถือในตัวหลวงปู่แก้วได้ร่วมกันจัดงานถวายให้แก่ท่านทุกๆ ปีเริ่มตั้งแต่ที่ท่านได้ย้ายมาอยู่วัดนี้ คือปี พ.ศ.๒๔๙๕ และได้ทำติดต่อกันมาทุกปีพร้อมทั้งจัดตั้งเป็นสมาคมศิษย์ "รัตนมุนี" ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมในของคณะศิษย์ทุกรุ่นที่ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ของท่าน จึงเป็นที่รู้และเข้าใจกันไประหว่างคณะศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือในตัวท่านว่าเมื่อถึงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี ทุกคนจะมารวมตัวกันที่วัดนี้ เพื่อแสดงมุทิตาสักการะถวายความเคารพ ต่อครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพรัก คนที่อยู่ไกลก็จะมาพักค้างคืนที่วัดก่อนล่วงหน้า เพื่อพบปะสังสรรค์ก่อนถึงวันงาน ในวัดจึงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเองอย่างยิ่ง
ตามปกติหลวงปู่ท่านจะเข้าจำวัตร์ เวลา ๒๑.๐๐ น.(สามทุ่มตรง) และออกมารับแขกหน้าห้องเวลา ๐๕.๐๐ น. (ตีห้าตรง) ทุกวัน ตลอดระยะเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ ในวันนี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อถึงเวลาท่านได้ออกมาจากห้อง ปรากฏว่า คณะศิษยานุศิษย์ และท่านที่เคารพนับถือ ต่างพากันมารอที่หน้าห้องเต็มไปหมดแล้วทุกคนมีดอกไม้ธูปเทียน พร้อมด้วยเครื่องสักการะต่างๆ ทุกคนเข้าไปถวายและอวยพรเนื่องในวันเกิดของท่าน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคนเมื่อทุกคนที่อวยพรหลวงปู่แก้วแล้ว แต่ละคนก็ออกมาจับกลุ่มคุยกันที่หอฉันบ้าง หน้ากุฏิบ้าง ตามอัธยาศัย
          หลวงปู่แก้วใช้เวลาในการต้อนรับแขกที่เข้ามาอวยพรท่านตั้งแต่เวลาตี ๕ ถึงเวลา ๗ โมงเช้า และฉันภัตตาหารที่หน้าห้องนั้น เมื่อท่านฉันภัตตาหารเสร็จ ท่านก็ทำธุระส่วนตัวแล้ว เวลา ๘ โมงเช้า ท่านก็ขอตัวลงทำวัตร์ในพระอุโบสถพร้อมด้วยพระภิกษุและสามเณร ตามปกติ ซึ่งเป็นกิจวัตร์ประจำวันที่ท่านต้องปฏิบัติแม้จะเป็นวันเกิดของท่านก็ตามโดยให้แขกที่มาอวยพรรออยู่ที่กุฏิก่อน
ในขณะที่หลวงปู่แก้วเดินก้าวเข้าไปภายในพระโบสถ์ และตรงไปที่พระประธานเพื่อจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยนั้น ปรากฏว่าได้มีนกนางแอ่นจำนวน ๓ ตัวบินตรงเข้าไปด้วย และส่งเสียงร้อง บินโฉบไปโฉบมาเล่นกันเป็นที่สนุกสนานภายในพระอุโบสถนั้น ภิกษุ สามเณร พากันแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นนกชนิดนี้มาก่อนหลวงปู่แก้วท่านก็มองด้วยความสงสัย เมื่อสวดมนต์เสร็จ หลวงปู่พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณร ก็พากันออกจากพระอุโบสถ เพื่อขึ้นมารับแขกที่รออยู่บนกุฏิ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลพระอุโบสถ พร้อมด้วยพระภิกษุบางรูปซึ่งเข้าใจว่า นกเหล่านี้บินหลงเข้าไปในพระอุโบสถและออกไม่ถูก จึงเปิดประตูหน้าต่างพระอุโบสถเพื่อให้นกเหล่านี้นออกได้สะดวกและส่งเสียงไล่เพื่อให้มันออก แต่ปรากฏว่า นกเหล่านั้นก็บินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมออกจากพระอุโบสถ แต่กลับบินไปเกาะอยู่ที่บัวเพดานชั้นบนไม่ยอมขยับเขยื้นไปไหน เจ้าหน้าที่และพระภิกษุเหล่านั้นจึงเลิกไล่ และคิดว่านกเหล่านี้คงหาทางออกไปได้เองจึงได้พากันขึ้นกุฏิ เพื่อช่วยกันทำงาน เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่แก้ว ซึ่งไม่ได้ไปติดใจกับนกนางแอ่น ๓ ตัวนั้นอีก
เมื่อถึงเวลา ๔ โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาทำวัตร์เย็นพระภิกษุและสามเณรก็พากันข้าไปทำวัตร์ตามปกติเป็นนกนางแอ่นทั้น ๓ ตัวนั้นยังเกาะอยู่ที่บัวเพดานชั้นบนเช่นเดิม แต่เปลี่ยนที่เกาะไปอยู่ที่หลังพระประธาน เมื่อทำวัตร์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่และพระภิกษุก็ช่วยกันไล่นกเหล่านั้นอีก เพราะเข้าใจว่ามันหาทางออกไปไม่ได้ แต่ไล่อยู่เช่นนี้เป็นเวลานานจนพากันอ่อนใจ นกทั้ง ๓ ตัวนั้นก็ยังไม่ยอมออกไปจากพระอุโบสถ จึงได้ปิดประตูพระโบสถไว้และขังนกนางแอ่นเหล่านั้นไว้ในพระอุโบสถนั่นเอง
วันรุ่งขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดพระอุโบสถเพื่อทำความสะอาด เวลา ๖โมงเช้าเมื่อเปิดประตูเข้าไปปรากฏว่านกทั้ง ๓ ตัวนั้นก็พากันบินออกจากประตูอุโบสถไปทั้งหมด สร้างความเบาใจให้กับเจ้าหน้าที่เหล่านี้นเป็นอย่างมากเพราะคิดว่านกเหล่านึ้นได้หาทางออกไปได้แล้ว เมื่อถึงเวลา ๔ โมงเป็นอันเป็นเวลาพระทำวัตร์เย็นในขณะที่พระกำลังทำวัตร์อยู่นั้น ปรากฏว่านกนางแอ่นเหล่านี้ได้บินกลับเข้าไปในพระอุโบสถอีก แต่เพิ่มขึ้นอีก ๒ ตัวรวมเป็น ๕ ตัวด้วยกัน เมื่อมันเข้าไปในพระอุโบสถแล้วนกเหล่านั้นก็พากันเกาะสิ่งอยู่บนเพดานพระอุโบสถอย่างเงียบสงบ ไม่ส่งเสียงดังเหมือนวันก่อน เมื่อพระทำวัตร์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ปิดพระอุโบสถ และขังนกเหล่านี้ไว้อีกเพราะคิดว่าถ้าไล่มันออกไปมันก็คงไม่ยอมออกไปอย่างแน่นอน ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดพระอุโบสถมันก็พากันบินออกไปจนหมดเช่นเดิมเมื่อถึงเวลาย็นประมาณ ๔ โมงนกนางแอ่นเหล่านี้ก็บินกลับเข้ามาอีกแต่เพิ่มขึ้นอีก ๓ ตัว รวมเป็น ๘ ตัว และได้เพิ่มขึ้นทุกวัน วันละ ๒ ตัว ๓ ตัว สิ้นปี พ.ศ. ๒๕๑๒ นกนางแอ่นในพระอุโบสถมีประมาณ ๒๐ ตัวและได้เพิ่มขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่อง และเริ่มทำรังรอบๆบัวเพดานชั้นบนพระอุโบสถนกนางแอ่นเหล่านี้เมื่อเปิดพระอุโบสถตอนเช้า มันจะพากันบินออกไปจนหมด และจะบินกลับมาไปเวลาประมาณ ๔ โมงเย็น ก่อนปิดพระอุโบสถทุกวันเหมือนมันจะรู้เวลาเปิดปิดพระอุโบสถ เป็นอยู่อย่างนี้ทุกวันเมื่อนานวันเข้านกนางแอ่นก็เพิ่มมากขึ้นจากจำนวนร้อย เป็นจำนวนพัน และนับวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันได้ออกลูกออกหลานเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จนเพดานพระอุโบสถเต็มไปด้วยนกนางแอ่นและทำรังรอบ ๆ ผนังพระอุโบสถ มองดูดำมืดไปหมด
เมื่อนกมีจำนวนมากขึ้น ปัญหาที่เกิดตามมาก็เกิดมากขึ้น เพราะนกนางแอ่นเหล่านี้ นอกจากมันเข้ามาอาศัยทำรังและออกลูกออกหลานมามากมายแล้ว มันยังก่อความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นแก่ผู้ดูและพระอุโบสถอีกด้วย โดยมันได้ถ่ายมูลรดผนังพระอุโบสถบ้าง อาสนะสงฆ์ของพระบ้าง ตลอดจนพื้นพระอุโบสถ เต็มไปด้วยขี้นกนางแอ่นเหล่านั้น ทำความสกปรกให้เกิดขึ้นแก่สถานที่ สร้างความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นแก่เข้าหน้าที่ ที่ดูรักษาความสะอาดพระอุโบสถเป็นอย่างมาก ต้องคอยเก็บกวาด เช็ดถู อยู่ตลอดเวลา แม้ขี้นกนางแอ่นจะไม่ค่อยมีกลิ่นมากนัก แต่ก็สร้างมลภาวะที่ไม่ดีให้เกิดขึ้นแก่สถานที่เป็นอย่างมาก เพราะนกเหล่านี้มันถ่ายไม่เลือกที่ มันบินไปถ่ายไปตามความพอใจของมัน สร้างความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นแก่เจ้าหน้าที่ และ พระภิกษุ สามเณรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งมีงานบวช และงานอื่นๆ ที่สำคัญๆ พวกนกเหล่านี้ก็พากันถ่าย รดเสื้อผ้าของชาวบ้านเหล่านั้นอีกด้วย เจ้าหน้าที่ที่รักษาความสะอาดพระอุโบสถ พร้อมด้วยพระภิกษุ สามเณรบางรูป จึงวางแผนที่จะกำจัดนกนางแอ่นเหล่านี้ ออกไปจากพระอุโบสถเสียให้หมด เริ่มแรก ใช้ไม้ยาวๆ ผูกผ้าติดไว้ที่ปลายไม้ แล้วโบกไปมา ไล่ให้นกบินออกไปจากพระอุโบสถ นางนางแอ่นเหล่านึ้นก็พากันบินหนีออกไปทางประตูหน้าต่างหน้าต่างจนหมด เมื่อเราหยุดไล่มันก็พากันบินกลับเข้ามาอย่างเดิมอีก
ขั้นที่ ๒ ให้ประทัด จุดให้เกิดเสียงดังๆ ติดต่อกัน นกเหล่านั้นก็พากันบินว่อนไปมาวนเวียนอยู่ในพระอุโบสถนั้นบางพวกก็บินออกไปจากพระอุโบสถ บางพวกก็ไม่ออก และบินกลับเข้ามาอย่างเดิมอีก เมื่อทั้ง ๒ วิธีไม่ได้ผล

ขั้นที่ ๓ ใช้อวนจับปลา (ตาข่าย) ดักจับโดยใช้วิธี ปิดประตูหน้าต่างให้หมด เปิดไว้เพียงประตูหน้าเพียงประตูเดียว แต่ใช้อวนกั้นเอาไว้ เมื่อนกเหล่าบินเข้ามาในพระอุโบสถจึงติดอวน และจับขังไว้ในกล่องกระดาษทีละตัวสองตัวจนหมด แล้วปิดฝาขังไว้ในพระอุโบสถนั้น พอรุ่งเช้าจึงปล่อยให้มันบินหนีออกไป เพราะคิดว่า มันคงเข็ดไม่กล้าบินกลับเข้ามาอีก แต่ถึงเวลาเย็น นกเหล่านั้นก็พากันบินกลับมาเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ขาดหายไปไหนแล้วแม้แต่ตัวเดียว
การกำจัดไล่นกเหล่านี้ออกไปจากพระอุโบสถ หลวงปู่ท่านไม่ทราบ เจ้าหน้าที่ และสามเณรผู้ทำความสะอาดพระอุโบสถทำกันเอง โดยไม่ได้ปรึกษากับใคร เมื่อหลวงปู่ท่านทราบเรื่อง จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรักษาความสะอาดพระอุโบสถไปพบ และสั่งไม่ให้ไล่นกนางแอ่นเหล่านั้น ปล่อยให้มันอยู่ในพระอุโบสถอย่างเดิม ไม่ให้ใครไปรบกวนมัน ท่านได้พูด สัตว์พวกนี้มันเข้ามาขอพึ่งร่มไม้ขายคาของวัดช่องลม และพึ่งใบบุญของหลวงปู่ มันคงเห็นว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกมัน มันจึงเข้ามาอาศัยอยู่ แต่ถ้ามันรู้ว่ามีอันตรายต่อพวกมันมันคงไม่มาอาศัยอยู่หรอก มันมาอาศัยพวกเรา พวกเราก็อาศัยพระศาสนาอยู่ ต่างคนต่างก็เป็นผู้อาศัย เพราฉะนั้น อย่าไปไล่หรือไปทำลายมันโดยเด็ดขาด ปล่อยให้มันอาศัยอยู่อย่างนั้น การที่มันถ่ายรดพระอุโบสถ และอาสนะสงฆ์นั้น มันคงไม่รู้ระเบียบวินัยของพวกเรา ถ้ามันรู้มันคงไม่ทำให้เราเดือดร้อน และสั่งให้เพิ่มคนทำความสะอาดพระอุโบสถ ให้มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครไปรังควาญหรือไปรบกวนให้มันเดือดร้อนอีกเลยกลับให้ความสะดวก และคอยดูแลปกป้องมันอย่างดียิ่งตลอดมา
เมื่อนานวันเข้า นกนางแอ่นก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนภายในพระอุโบสถทั้งด้านหน้าและด้านหลังและรอบๆ ผนัง เต็มไปด้วยรังนก เมื่อตอนเย็นมันบินกลับเข้ามาพร้อมๆ กันมองเห็นดำมืดไปหมด นกทั้งหมดนี้มันจะออกไปหากินในตอนเช้า และกลับเข้ามาอีกในเวลาเย็น ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดพระอุโบสถ นอกจากนกที่ฟักไข่อยู่ หรือนกที่มี ลูกอ่อน มันจะฟักไข่และลูกของมันอยู่ ไม่ออกไปไหน แต่จะมีพ่อนกนำเอาอาหารมาส่งให้เป็นระยะๆ เพราะฉะนั้น เมื่อเราไปที่วัดและเข้าไปในพระอุโบสถ จะไม่ค่อยเห็นนกมากนัก เพราะมันพากันบินออกไปหากินหมด นอกจากลูกนกที่ยังบินไม่ได้ มันจะเกาะติดยู่ที่รังของมันตลอดเวลา จนกว่ามันจะบินได้ นกนางแอ่นเหล่านี้ มันจะรู้เวลาปิด เปิด เพราะอุโบสถ มันจะพากันบินกลับเข้ามาก่อนที่จะปิดพระอุโบสถเสมอ ถ้าวันใด เจ้าหน้าที่ปิดพระอุโบสถก่อนที่มันจะบินกลับเข้าไป มันก็ไม่สามารถที่จะบินเข้าไปได้ นกเหล่านั้นจะพากันบินเข้าไปในหอฉันซึ่งเป็นที่อยู่ของหลวงปู่แก้ว แล้วพากันบินวนเวียนและส่งเสียงร้องดังอยู่ภายในหอฉันนั้น หลวงปู่แก้ว ต้องเรียกพระที่ดูและพระอุโบสถมาและบอกว่า ไอ้เปี๋ยก นกนางแอ่นพวกนี้มันฟ้องหลวงปู่ เพราะว่ามันเข้าไปในพระอุโบสถไม่ได้ ให้เอากุญแจไปเปิดให้นกเหล่านั้นเข้าไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไปเปิดพระอุโบสถ นกเหล่านั้นก็พากันบินเข้าจดหมด จึงเป็นที่รู้กันอยู่ว่าถ้าวันใดนกนางแอ่นบินเข้ามาในที่อยู่ของหลวงปู่แก้วและส่งเสียงดัง แสดงว่า พระอุโบสถปิดแล้ว นกไม่สามารถเข้าไปได้ ต้องเอากุญแจไปเปิดให้มันเข้าให้หมดจึงจะปิดได้บางวันต้องรอจนค่ำเพราะนกบางพวกที่ออกไปหากินไกลๆ กลับเจ้ามาช้ากว่านกพวกอื่นการที่นกนางแอ่นเข้ามาอาศัยอยู่ในพระอุโบสถนี้ มีทั้งผลเสีย และผลดี ผลเสีย ก็คือการที่มันได้ถ่ายรดผนังพระอุโบสถ ทำให้สถานที่ไม่ค่อยสะอาด เพราะเมื่อมันเข้าไปอาศัยนอนข้างในแล้ว มันยังถ่ายทิ้งไว้ในนั้น มีจำนวนมากมายเมื่อนกมากขึ้นมูลของมันก็มากขึ้น นอกจากมันจะถ่ายไว้ในพระอุโบสถแล้วบางครั้งคนที่เข้าไปในพระอุโบสถ เพื่อเข้าไปกราบไหว้พระประธานมันก็ถ่ายรด เสื้อผ้าของบุคคลที่เข้าไปในพระอุโบสถอีก โดยเฉพาะพระเณรที่เข้าไปทำวัตร์ เช้า เย็น จะต้องมีสัญลักษณ์ติดจีวรไปทุกองค์ โชคดีที่กลิ่นของมันไม้เหม็นมากนัก แต่ก็สร้างความรำคาญให้เกิดขึ้นได้เหมือนกัน
ส่วนผลดีที่ได้รับจากการที่นกนางแอ่นเข้ามาอาศัยอยู่ที่วัดนี้ ก็เพราะประชาชนไม่เคยเห็น เมื่อเข้ามาเห็นนกเหล่านี้มีจำนวนมากมาย ต่างก็พากันมาดู ในความแปลกประหลาด และมหัศจรรย์ ของนกเหล่านี้เพราะตามปกติ นกนางแอ่นส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามภูเขาทางภาคใต้เท่านั้น ส่วนในภาคกลางไม่เคยปรากฏเห็นที่ไหนมาก่อนบางคนอาจจะเป็นแต่รูปภาพจากหนังสิอพิมพ์ หรือในโทรทัศน์ไม่เคยเห็นตัวจริงๆ เมื่อมีข่าวออกไปจากคนที่เคยมาเที่ยว หรือเคยมาดู จึงทำให้ประชาชนที่อยากรู้อยากเห็นของจริงต่างพากันมาดูวันหนึ่งๆ มีจำนวนมากมาย หนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ทุกช่อง ต่างพากันมาทำสารคดี ออกเผยแพร่ไปทั่วประเทศ คนที่ไม่เคยเห็นก็อยากจะมาดูมาเห็นด้วยตนเองโอยเฉพาะรังของนกนางแอ่นกันมากมายเมื่อมีประชาชนมาที่วัดมากเท่าใดก็ทำให้วัดมีรายได้มากขึ้นจากการทำบุญของพวกนักท่องเที่ยว ปัจจุบันนี้ วัดสุทธิวาตวราราม (ช่องลม) เป็นวัดที่นักท่องเที่ยว จัดทัวร์มาแวะเที่ยวเพื่อดูนกนางแอ่นเป็นจำนวนมาก เพราะวันนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดสมุทรสาครอยู่ด้วย

โดย : วัดสุทธิวาตวราราม

ที่อยู่ : ต.ท่าฉลอม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

จำนวนเข้าดู : 282

ปรับปรุงล่าสุด : 28 กันยายน พ.ศ. 2564 20:12:37

ข้อมูลเมื่อ : 28 กันยายน พ.ศ. 2564 20:12:37

 
 
 
 

ปูชนียวัตถุสถาน 10 อันดับ

หลวงพ่อแดง วัดเกาะวังไทร

โดย : วัดเกาะวังไทร

ข้อมูลเมื่อ : 01-02-2567

เปิดดู : 113

หลวงพ่อโต วัดดอนไก่ดี

โดย : วัดดอนไก่ดี

ข้อมูลเมื่อ : 25-12-2566

เปิดดู : 119

พระพิฆเนศ ปางเสวยสุข

โดย : วัดบัวหวั่น

ข้อมูลเมื่อ : 23-12-2566

เปิดดู : 127

พระพุทธโตรโลกนาถ(หลวงพ่อขาว)

โดย : วัดบัวหวั่น

ข้อมูลเมื่อ : 23-12-2566

เปิดดู : 130

หลวงพ่อโตทันใจ

โดย : วัดอัมพวนาราม

ข้อมูลเมื่อ : 05-11-2564

เปิดดู : 193

หลวงพ่อโต ป่าเลไลยก์

โดย : วัดบัวหวั่น

ข้อมูลเมื่อ : 09-12-2566

เปิดดู : 128