วิหาร ทรงขับธิดามาร

รายละเอียด
             พระยาวัสสวดีมาร เมื่อได้ทราบว่าสิทธัตถะราชกุมารล่วงพ้นวิสัยอำนาจของตนแล้ว
ก็มีความเสียใจเป็นอย่างมาก จึงลงมาจากเทวโลก นั่งเศร้าโศกเสียใจอยู่ที่หนทางใหญ่แห่งหนึ่ง
คิดรำพึงว่า “เรามิได้บำเพ็ญบารมี ๑๐ เหมือนสิทธัตถะราชกุมาร “  ดังนี้แล้วใช้พระดัชนี (นิ้วชี้) ขีดลงบนพื้นดินตามบารมีที่ตนคิดบารมีละรอย รวมได้ ๑๐ รอย แล้วรำพึงว่า “เรามิได้บำเพ็ญทศบารมีอันเป็นอุปนิสัยได้ตรัสรู้อสาธารณญาณ ๖ จึงมิได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าดังพระสิทธัตถะนี้” แล้วใช้พระดัชนีขีดลงบนพื้นดินอีก ๖ รอย ตามญาณละรอย รวมเป็น ๑๖ รอย
             ขณะนั้น ธิดาของพระยาวัสสวดีมาร คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดีพากันตามหาบิดาในเทวโลกแต่ไม่พบ จึงพากันเที่ยวตามหาและพบบิดาที่กำลังนั่งเศร้าโศกเสียใจอยู่บริเวณหนทางใหญ่ในมนุษยโลก จึงเข้าไปทูลถาม เมื่อทราบเรื่องราวจากบิดาจึงรับอาสาที่จะทำให้พระสิทธัตถะตกอยู่ในอำนาจของตนและจะนำพระสิทธัตถะมาถวายบิดาให้จงได้ แม้พระยาวัสสวดีมารจะพยายามทัดทานธิดาทั้ง ๓ แล้วก็ตาม แต่ธิดาทั้ง ๓ ก็ยืนยันว่าตนสามารถทำได้ ธิดามาร
ทั้ง ๓ จึงมาสู่ที่ประทับของพระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ ณ ใต้ร่มอชปาลนิโครธ ทำการประเล้าประโลมด้วยวิธีการต่าง ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้พระพุทธองค์หวั่นไหวได้
             ฝ่ายธิดามารแม้จะพยายามแสดงอาการประเล้าประโลมเพียงใดก็ตามแต่ไม่สำเร็จ และแม้แต่พระพุทธองค์จะตรัสห้ามแล้วก็ตาม เมื่อทรงเห็นว่าธิดามารทั้ง ๓ ไม่เชื่อฟัง จึงทรงแสดง
พุทธานุภาพบันดาลให้รูปร่างอันงดงามอ่อนช้อยของธิดามารทั้ง ๓ กลับกลายเป็นหญิงชราหน้าตาน่าเกลียดน่าชัง ทำให้ธิดามารพากันตกใจรีบหนีออกไปจากที่นั้นจนหมดสิ้น

โดย : วัดไผ่โรงวัว

ที่อยู่ : ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

จำนวนเข้าดู : 394

ปรับปรุงล่าสุด : 17 ตุลาคม พ.ศ. 2564 08:54:25

ข้อมูลเมื่อ : 17 ตุลาคม พ.ศ. 2564 08:54:25