วัดทัพหลวงตั้งอยู่เลขที่ ๗๑ หมู่ที่ ๔ ตำบลทัพหลวง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม  แต่เดิมชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า วัดแปดโรง ตามชื่อของหมู่บ้าน
ซึ่งมีชาวบ้านมาสร้างบ้านเป็นหลังคามุมแฝกจำนวน ๘ หลัง ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีหมู่บ้านนี้อยู่ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนบ้านเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนประชากร
บุคคลส่วนใหญ่เรียกวัดนี้ว่า วัดทัพหลวง โดยมาจากชื่อตำบลที่ตั้งของวัด วัดทัพหลวงได้มีการก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ และได้มีผู้นำคือ นายอ่อน  แป้นห้วยไผ่ ได้ทำการอุทิศถวายที่ดินเพือ่สำหรับการสร้างวัดเป็นพิ้นืั้ ๑๕ ไร่ และได้มีพระภิกษุนาค เข้ามาดูแลวัดนี้เป็นเวลา ๑ ปี ในระยะแรกได้มีการสร้างศาลาการเปรียญขึ้น ๑หลัง ยังเป็นหลังคามุมแฝก และในปีต่อมา พ.ศ.๒๔๖๑ วัดต้องถูกยุบเนื่องจากไม่ได้มีการทำเรื่องขออนุญาตสร้างวัดต่อคณะสงฆ์อย่างถูกต้อง
เวลาผ่านไปในปี พ.ศ.๒๔๖๒ นายอ่อน แป้นห้วยไผ่ ได้เป็นแกนนำชักชวนประชาชนเพือ่ไปดำเนินเรื่องในการก่อสร้างวัดนี้ขึ้นอีกครั้ง และได้มีการขออนุญาต
ตั้งวัดต่อคณะสงฆ์อย่างถูกต้องซึ่งได้รับการอนุญาตให้ตั้งวัดได้  เมื่อดำเนินการตั้งวัดเรียบร้อย บรรดามรรคทายกได้ไปนิมนต์พระภิกษุเรียบ จากวัดหนองปลาหมอ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ให้มาเป็นผู้ดูแลวัด ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๖๓ ถึงปี พ.ศ.๒๔๖๔ ได้มีพระภิกษุทอง ซึ่งเดินทางมาจากภาคใต้และพระภิกษุไผ่
จากวัดพระงาม อำเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลวัดร่วมด้วยตามลำดับ และปี พ.ศ.๒๔๖๖ พระภิกษุแสง ซึ่งเป็นคนอยู่ในท้องที่ได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลวัดนี้เช่นกัน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ นายอ่อน แป้นห้วยไผ่ พร้อมด้วยทายกทายิกาได้ไปนิมนต์พระภิกษุเกิด จนฺทสโร จากวัดเทพอาวาส อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี มาเป็นผู้ดูแลวัด ตั้งแต่นั้นมาพระภิกษุเกิดได้เริ่มก่อสร้างเสนาสนะหลายอย่างและเป็นผู้ริเริ่มสร้างโรงเรียนประชาบาลวัดทัพหลวง ซึ่งต่อมาจนถึงปัจจุบันได้ใช้ชื่อโรงเรียนนี้ว่า โรงเรียนวัดทัพหลวง หลวงพ่อเกิดอุปถัมภ์ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ พระภิกษุเกิด จนฺทสโร ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงเป็นรูปแรกของวัดอย่างเป็นทางการ และปี พ.ศ.๒๕๐๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระวิหารการโกวิท พระราชาคณะชั้นสามัญ ในระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่นั้นได้ดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะและบูรณะวัดทัพหลวงเรื่อยมาจนเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชน
ที่อาศัยอยูในตำบลทัพหลวง ตำบลใกล้เคียง และในหลายๆพื้นที่ เมือ่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๐ พระวิหารการโกวิท ได้ถึงการมรณภาพลงซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงได้รวมทั้งสิ้น ๓๕ ปี และหลังจากพระวิหารการโกวิทถึงการมรณภาพลงได้มีพระวินัยธรชุณห์ กิตฺติวณฺโณ (พระธรรมเสนานี) จากวัดวังตะกู ตำบลวังตะกู อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม มารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดทัพหลวง ในขณะที่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ ต่อมาป พ.ศ.๒๕๑๓ พระภิกษุสำรอง สุธมฺโม ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงอยู่นั้น ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงเป็นรูปที่ ๒ ของวัดนี้ ปีพ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูสุธรรมประสาท ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้มีการบูรณะวัดและอบรมสั่งสอนพระภิกษุที่อยู่ในวัดอยู่เสมอ จึงทำให้เป็นที่เคารพนับถือของชาวตำบลทัพหลวง ลูกศิษย์ รวมไปถึงเหล่าพุทธศาสนิกชนที่อื่นๆอีกด้วย 
เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๙ พระครูสุธรรมประสาท ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงได้ทั้งหมด ๔๖ ปี ได้ถึงการมรณภาพลง  หลังจากนั้น
พระครูวิจิตรสรคุณ (สมชัฎ โชติญาโณ) เข้ามารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงเป็นเวลา ๕ เดือน และภายในปีนั้นเอง เมื่อวัที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ได้มีการแต่งตั้งให้พระครูวิจิตรสรคุณ ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทัพหลวงเป็นรูปที่ ๓ โดยทำหน้าที่เจ้าอาวาสตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้

Google Map Link
กดดู