วัดหนองโพธิ์ -ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศคณะสงฆ์ภาค ๑๔

เข้าสู่ระบบสมาชิก

ลืมรหัสผ่าน

สถิติสารสนเทศ

วัด

พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร

1 วัด

พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร

0 วัด

พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร

2 วัด

พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ

9 วัด

วัดราษฎร์

1455 วัด

สำนักสงฆ์

83 วัด

ที่พักสงฆ์

72 วัด

วัดร้าง

2 วัด

วัดทั้งหมด

1624 วัด

ศาสนบุคคลไทย

พระภิกษุ

8352 รูป

สามเณร

302 รูป

แม่ชี

89 รูป

ศิษย์วัด

33 คน

บุคคลทั่วไปชาย

39 คน

บุคคลทั่วไปหญิง

52 คน

ทั้งหมด

8867 รูป/คน

ศาสนบุคคลต่างชาติ

พระภิกษุ

40 รูป

สามเณร

25 รูป

แม่ชี

1 รูป

ศิษย์วัด

3 คน

บุคคลทั่วไปชาย

0 คน

บุคคลทั่วไปหญิง

0 คน

ทั้งหมด

69 รูป/คน

สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน

พระบวชใหม่

7197 รูป

ลาสิกขา

35 รูป

มรณภาพ

10 รูป

ข้อมูลทั่วไป

QR Code วัดหนองโพธิ์

รหัสวัด
02730210002

ชื่อวัด
วัดหนองโพธิ์

นิกาย
มหานิกาย

ประเภทวัด
วัดราษฎร์

วันตั้งวัด
ปี 500

วันรับวิสุงคามสีมา
วันที่ 26 เดือน สิงหาคม ปี 500

ที่อยู่
-

เลขที่
33

หมู่ที่
8

ซอย
-

ถนน
-

แขวง / ตำบล
ห้วยหมอนทอง

เขต / อำเภอ
กำแพงแสน

จังหวัด
นครปฐม

ไปรษณีย์
73140

เนื้อที่
71 ไร่ - งาน 14 ตารางวา

จำนวนเข้าดู : 694

ปรับปรุงล่าสุด : 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 16:05:09

ข้อมูลเมื่อ : 28 กันยายน พ.ศ. 2564 13:27:50

ประวัติความเป็นมา

ประวัติ วัดหนองโพธิ์

ที่ตั้งวัดในปัจจุบัน

วัดหนองโพธิ์ เป็นวัดราษฎร์ สังกัด คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๓๓ หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยหมอนทอง
อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีเนื้อที่ ๗๑ไร่-งาน๑๔ตารางวา โฉนดเลขที่ ๔๘๖๖๔,๔๘๖๖๘๖,๔๘๖๙๒

ความเป็นมาแต่เติม

วัดหนองโพธิ์เดิมเป็นป่าทึบ ป่าใหญ่ มีหนองน้ำขนาดใหญ่ เล่ากันว่าเป็นเส้นทางสำหรับผู้ที่เดินทางจากนครปฐม (องค์พระ) ไปยังประแท่นดงรังใช้เป็นเส้นทางลัดทางหนึ่ง เมื่อเดินทางผ่านออกจากป่าแล้วจะพบหนองน้ำขนาดใหญ่ ฉะนั้น
จึงได้เรียกว่า "หนองโผล่" ปัจจุบันจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น "หนองโพธิ์"เพราะมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ริมหนองนั่นเอง จากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ว่า ได้มีคนจีนโพ้นทะเลมีภรรยาเป็นคนไทยมาตั้งบ้านเลื่อยไม้อยู่ริมหนองใหญ่ อยู่ได้ประมาณ ๑๐ กว่าปี
ในราวปี พ.ศ. ๒๔๕๔
กาลต่อมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากจึงได้อพยพหนีน้ำมาตั้งบ้านเรือนอยู่ในปัจจุบัน และก็ได้มีผู้คนจากที่ต่างๆได้อพยพมาอยู่จึงได้มีการสร้างที่พักสงฆ์ขึ้นมาและได้อาราธนาหลวงพ่อต่วม พุทฺธรกฺขิโต (ฤทธิศักดิ์สงคราม ณ เวียงจันทร์) ที่ท่านได้เดินทางนำญาติโยมอพยพมาจากนครเวียงจันทร์ ให้พักอยู่เพื่อสร้างสำนักสงฆ์ หลวงพ่อต่วม ท่านได้พักอยู่ชั่วระยะหนึ่ง จากนั้นได้ย้ายไปสร้างวัดโคกหม้อ �จังหวัดราชบุรี

ลักษณะพื้นที่ทั่วไป

เป็นพื้นที่ราบ มีลำคลองห้วยแล้ง ซึ่งเป็นแม่น้ำโบราณสายหนึ่ง ในสมัยโบราณใช้เป็นเส้นทางเดินเรือจากนครปฐมไปยังเขตราชบุรี และกาญจนบุรี แต่ในปัจจุบันลำคลองตื้นเขินบางช่วงได้ขาดหายไปบางช่วงได้กลายเป็นทะเลสาบน้ำจืดไป เนื่องจากการทำท่าทราย การเดินทางในปัจจุบันสะดวกกว่าแต่ก่อนมาก เพราะมีถนนตัดผ่านหลายสาย ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ทำเกษตร ก็มีความสะดวก เพราะมีการชลประทานตัดผ่านพื้นที่

ยุคที่มีการก่อสร้างเป็นวัดมีอุโบสถเป็นครั้งแรกและต่อมา

วัดหนองโพธิ์(ราษฎร์สิทธาราม) ปรากฏหลักฐานว่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดจากกรมการศาสนาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๓
จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ว่า เดิมที่ วัดหนองโพธิ์ ได้สร้างอุโบสถกลางน้ำ ไว้สำหรับพระภิกษุได้ใช้ทำสังฆกรรมเป็นอุโบสถแห่งแรก ต่อมาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากมาท่วมวัดจึงย้ายมาอยู่บริเวณหน้าวัดในปัจจุบันและต่อมาจึงได้สร้างอุโบสถขึ้นใหม่เพื่อใช้ทำสังฆกรรม ก่อสร้างด้วยเครื่องไม้ทั้งหลัง มุงด้วยสังกะสี ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ และได้ทำสังฆกรรมสืบต่อมาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๒๑ พระครูปิยะธรรมรัต (เส็ง ปิยธรฺโม) ได้ร่วมกับประชาชนชาวบ้านทั้งใกล้และไกล สร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๕ แล้วได้จัดงานผูกพันธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖

การพัฒนาวัดที่มีสืบต่อมาโดยลำดับ

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ หลังจากที่ พระครูปิยธรรมรัต (เส็ง ปิยธรฺโม) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองโพธิ์ก็ได้ทำการพัฒนาวัด บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะถาวรวัตถุต่างๆเรื่อยมา มีการสร้างอุโบสถ เมรุ และศาลาฌาปนสถาน โรงครัว กุฏิสำหรับพระภิกษุ กุฏิเจ้าอาวาส กำแพงวัด และศาลาการเปรียญ ซึ่งมีการพัฒนาวัดหนองโพธิ์ที่เกิดขึ้นมาโดยลำดับนี้ ได้ปรากฏเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นในสมัยที่ พระครูปิยธรรมรัตเป็นเจ้าอาวาสนี้เอง

ประวัติการสร้างถาวรวัตถุ

๑. อุโบสถ
มีลักษณะรูปทรงเป็นแบบทรงไทย โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐถือปูน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นเงินจำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังสุดเมื่อ วันที่ ๒๖ เดือน สิงหาคมพ.ศ. ๒๕๐๐ อุโบสถหลังนี้มีขนาด ๔๐ x ๘๐ เมตร
๒.ศาลาการเปรียญ
มีลักษณะเป็นแบบทรงไทย โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐถือปูน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ศาลาการเปรียญหลังนี้มีขนาด ๑๙ x ๓๗ เมตร
๓.ฌาปนสถาน (เมรุ)
มีลักษณะรูปทรง เป็นแบบมณฑปทรงไทยประยุกต์ โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีขนาด ๑๑ x ๑๙ เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นเงิน ๑,๓๐๐,๐๐๐ บาท วัตถุประสงค์ที่จัดสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกแกประชาชนในพื้นที่แถบนั้น จะได้ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศล และฌาปนกิจศพ

ประวัติปูชนียวัตถุของวัด

๑. พระประทานประจำอุโบสถ
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพระพุทธลักษณะเป็นแบบพระพุทธชินราช มีซุ้มเรือนแก้ว สร้างด้วยโลหะหล่อขนาดหน้าตักกว้าง ๑ เมตร สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒
๒. พระพุทธรูปปางลีลา
สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีขนาดสูง ๙ เมตร ชาวบ้านวัดหนองโพธิ์ร่วมกับพระภิกษุวัดหนองโพธิ์สร้างถวายไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑

ลำดับรายนามเจ้าอาวาสวัดหนองโพธิ์

ปัจจุบันได้มีพระภิกษุกดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดมาแล้วตั้งแต่ยุคที่ก่อตั้งเป็นวัดขึ้นจนกระทั่งถึงบัดนี้ ซึ่งพอจะสืบค้นหาและลำดับรายนามได้ดังนี้
๑. หลวงพ่อต่วม พุทฺธรกฺขิโต นามสกุล ณ เวียงจันทร์ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๐ จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๕
๒. หลวงพ่อสิน สุนฺทโร ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๕
๓. พระอธิการวิวัย นนฺทวโร น.ธ. ตรี ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๒ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๐๕
๔. พระครูปิยธรรมรัต ปิยธรฺโม น.ธ. เอก ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๓๐
๕. พระอธิการประสาน ปญฺญาพโล นามสกุล อินทร์สมัย น.ธ. เอก ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๑
๖. เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน พระครูปลัดบุ่นเลี้ยง ธมฺมกุสโล นามสกุล แซ่ลิ้ม วิทยฐานะ ป.ธ. ๑-๒, น.ธ. เอก ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ตามหนังสือคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ที่ ๔/๒๕๓๒ ลงวันที่ ๑๐ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ จนถึงปัจจุบัน และได้รับ สมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นฐานานุกรมพระราชาคณะชั้นเทพของพระเทพสุเมธยุนี วัดโยธานิมิต