วัดช่องสะเดา ในอดีตสถานที่แห่งนี้ เป็นที่ดอนและมีต้นไม้นานาชนิดที่มีมากที่สุดคือ ต้นสะเดา และยังมีต้นตะแก และต้นไม้นานาชนิดหนาแน่นมาก และยังมีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ เช่น กระต่ายป่า ไก่ป่า เสือปลา นกนานาชนิด กระรอก กระแตเป็นต้น ไม่มีใครทราบว่าวัดช่องสะเดามีอายุนานแค่ไหน สร้างในสมัยใด รู้แต่ว่าเป็นวัดที่เก่าแก่มาก เมื่อหลายสิบปีมาแล้วคนเก่าๆ ได้เล่าให้ฟังว่า คนที่เข้ามาอยู่ในช่องสะเดาเป็นคนแรกก็คือ ปู่ตี้และย่าปาน มังคะลา เพราะเมื่อสมัยนั้นมีโจรและเสือออกปล้น ลักขโมยโคและกระบือ ชาวบ้านอยู่ไม่เป็นสุขปู่และย่าปานก็เลยยกครอบครัวมาอยู่ที่วัดช่องสะเดาเพราะมีชาวบ้านอาศัยอยู่มาก ก็เลยบุกร้านถางป่า ทำที่อยู่อาศัย และก็ปลูกผลไม้ต่างๆ เช่น มะม่วง กล้วย ขนุน เพื่อเลี้ยงครอบครัวมาตลอดระยะเวลานานหลายปี ต่อมาปู่ตี้และย่าปานได้เสียชีวิตลงจึงยกที่ดินผืนนั้นให้กับ นายสถิต มังคะลา เขาจึงใช้ที่ดินผืนนั้นทำอ้อย ต่อมาเขาต้องย้ายครอบครัวไปทำไร่อ้อยไร่มันที่ อำเภอด่านช้าง และได้ยกที่ดินผืนนั้นให้กับวัดช่องสะเดา ต่อมาปี พ.ศ.2529 เพราะว่าที่ดินมีราคาแพงขึ้นชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าเขตไหนเป็นของใครก็อาจมีการบุกรุกกันบ้าง ต่อมานายสุดใจ กฤษวงษ์ ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอสามชุกให้ส่งช่างวัดที่ดินมาวัดและออกใบโฉนดที่ดินให้กับชาวบ้าน และได้ออกใบโฉนดให้กับวัดช่องสะเดาเป็นที่ดินประมาณ 18 ไร่ 48 ตารางวา

Google Map Link
กดดู