สาระธรรม
ภัยคุกคามของพุทธศาสนาของเรานั้น ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาทุกที
รายละเอียด
โอวาทเมื่อวันเสาร์ที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
...ดังที่ได้กล่าวไว้ตอนก่อนที่จะสมาทานพระกรรมฐาน ว่าภัยคุกคามของพุทธศาสนาของเรานั้น ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาทุกที ถ้าเรายังประมาทอยู่ พระพุทธศาสนาที่เรารักอาจจะไม่เหลืออะไรไว้เลย
ซึ่งตรงจุดนี้ วิธีการที่จะแก้ไขที่ดีที่สุด ก็คือพุทธบริษัท ๔ ซึ่งเป็นองค์กรที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตั้งเอาไว้ ประกอบไปด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ซึ่งถ้าแบ่งแยกออกไปแล้วก็เป็นฝ่ายอนาคาริก คือผู้ไม่ครองเรือน ได้แก่ ภิกษุรวมสามเณรด้วย ภิกษุณีนับรวมแม่ชีเข้าไปด้วย อุบาสกอุบาสิกาคือฆราวาสชายหญิงที่คอยค้ำจุนพระพุทธศาสนา ในส่วนของฆราวาสชายหญิงนั้นเป็นอาคาริก คือผู้ครองเรือน มีครอบครัวทำมาหากินตามปกติ เมื่อมีส่วนเหลือจากการกินการใช้แล้วก็นำมาเจือจุนฝ่ายอนาคาริกะคือภิกษุภิกษุณี ซึ่งไม่มีการทำมาหากิน ไม่มีอาชีพ
เมื่อฝ่ายภิกษุภิกษุณีได้รับการอุดหนุนด้วยปัจจัย ๔ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากนัก อาศัยที่มีเวลามากกว่าเพราะไม่ได้ทำมาหากิน ก็เร่งรัดในการปฏิบัติธรรม จนกระทั่งสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลอย่างแท้จริง เมื่อบุคคลที่เข้าถึงมรรคถึงผลอย่างแท้จริงมาบอกทางให้เราเดิน ก็จะเป็นทางที่ง่ายที่สุดเพราะว่าท่านเดินมาเองแล้วรู้ว่าตรงไหนมีอุปสรรค ตรงไหนมีความคล่องตัว เมื่อนำเอาส่วนที่ง่ายนี้มาบอกกล่าวต่ออุบาสกอุบาสิกา อุบาสกอุบาสิกาก็อาศัยทางลัดที่เรียนรู้จากประสบการณ์ของภิกษุภิกษุณีนั้น ก้าวเข้าไปสู่มรรคสู่ผลของตนได้ง่ายยิ่งขึ้นแม้ว่าจะมีเวลาน้อยเพราะติดด้วยการทำมาหากิน
คราวนี้ในปัจจุบันนั้นภิกษุณีไม่มีแล้ว ที่มีอยู่ที่เห็นอยู่นั้นเป็นภิกษุณีสายมหายาน ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เพียรพยายามที่ต้องการความยอมรับจากทางราชการและคณะสงฆ์ไทย แต่เนื่องจากว่าในเรื่องของธรรมวินัยนั้นภิกษุณีของเราหมดไปแล้ว ไม่สามารถจะรื้อฟื้นได้ เพราะว่าปวัตตินีคืออุปัชฌาย์ของฝ่ายภิกษุณีไม่มี ไม่สามารถให้การบวชแก่สิกขมานาได้ เมื่อบวชแล้วก็ยังต้องมาญัตติในฝ่ายภิกษุอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าอุภโตสังฆอุปสัมปทา ก็คือการบวชในสงฆ์ทั้งสองฝ่าย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหากว่าองค์กรพระพุทธศาสนาของเราเป็นรถ ล้อข้างหนึ่งหลุดหายไปแล้ว เหลือล้ออีก ๓ ข้างคือ ภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งก็ต้องนับแม่ชีเข้าไปในส่วนของอุบาสิกา ภิกษุก็นับสามเณรรวมเข้าไปด้วย เหลือ ๓ ล้อแต่วิ่งไม่เต็มที่ เพราะในล้อของภิกษุสามเณรก็โดนบีบโดนบังคับด้วยระเบียบ ด้วยมติ ด้วยกฎมหาเถรสมาคมที่ออกมาก็ไม่เคยจะอำนวยความสะดวกแก่พระพุทธศาสนา ไม่ได้ออกมาเพื่อให้คนอุปสมบทได้ง่าย แต่ออกมาเหมือนกับกีดกันไม่ให้คนอุปสมบทได้
อุบาสกอุบาสิกานั้นกระแสโลกที่แรงมากก็ดึงห่างไกลวัดออกไปทุกขณะ ทำให้องค์กรพุทธบริษัท ๔ พิกลพิการ ถ้าเป็นรถก็วิ่งสูบกว่า ๒ สูบไม่ถึง ๔ สูบ แล้วจะเอากำลังที่ไหนมาวิ่งพาไปสู่จุดหมายปลายทาง ก็มีอยู่อย่างเดียวคืออุบาสกอุบาสิกาของเราต้องเลิกนิ่งดูดาย ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมของเราให้เกิดมรรคเกิดผล เมื่อเกิดแล้วเราจะได้ยืนยันว่าพุทธศาสนานั้นดีจริงแล้วไปบอกต่อ
การที่เราทำได้แล้วไปบอกต่อ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะขลังจะศักดิ์สิทธิ์เพราะมีตัวเรานั้นเป็นสักขีพยาน ผู้อื่นก็จะคล้อยตามมาง่ายเพราะเห็นว่าเราปฏิบัติแล้วได้ผล ถ้าหากว่าหลาย ๆ คนปฏิบัติแล้วได้ผล พุทธศาสนาของเราก็จะมั่นคงขึ้นไปเรื่อย ๆ และท้ายที่สุดก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกวาระหนึ่งเหมือนดั่งสมัยพุทธกาล
อาตมาจึงขอย้ำว่าอย่าปล่อยให้องค์กรพุทธบริษัท ๔ อยู่ภายใต้การบริหารของพระภิกษุสามเณรเท่านั้น เพราะว่าพระภิกษุสามเณรนั้นโดนบีบคั้นด้วยศีล ด้วยกฎหมายบ้านเมืองมากขึ้นไปเรื่อย ๆ อุบาสกอุบาสิกาของเราที่นิ่งดูดายมานานต้องเร่งรัดตนเองเพื่อให้เกิดมรรคเกิดผล จนสามารถเป็นทนายแก้ต่างให้กับพระพุทธศาสนา สามารถที่จะอวดเขาได้อย่างเต็มที่ว่าธรรมะของพุทธศาสนานี้มีความดีเลิศอย่างไร
ก็ขอฝากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เอาไว้ให้ท่านทั้งหลายได้ตระหนัก ว่าถ้าหากว่าเราไม่เร่งรัดการปฏิบัติของเราให้เกิดผล ศาสนาพุทธของเราจะเสื่อมโทรมลงไปและหมดสภาพในระยะเวลาอันรวดเร็ว
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
โดย : วัดท่าขนุน
ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จำนวนเข้าดู : 39
ปรับปรุงล่าสุด : 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 21:40:48
ข้อมูลเมื่อ : 19 ธันวาคม พ.ศ. 2567 21:40:48
สาระธรรม 10 อันดับ
การปฏิบัติธรรมก็คือการทวนกระแสโลก ต้องทำแบบจริงจังสม่ำเสมอเท่านั้นถึงจะเกิดผล
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 21-01-2568
เปิดดู : 5
เมื่อคนเราเกิดมามีปัญญา รู้ว่าอะไรไม่ควร อะไรดีไม่ดี ก็ต้องเลือกทำแต่สิ่งที่ดี ละเว้นในสิ่งที่ชั่ว
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 09-01-2568
เปิดดู : 36
เป็นธรรมดาของคนที่สติสัมปชัญญะยังไม่สมบูรณ์ ปัญญายังไม่รู้เท่าทันกิเลส โอกาสผิดพลาดมีได้
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 07-01-2568
เปิดดู : 32
การส่งออกของจิตนั้นเป็นต้นเหตุของความทุกข์ทั้งปวง
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 26-12-2567
เปิดดู : 34
ความตายนั้นเป็นปกติธรรมดา สัตว์โลกทั้งหลาย เกิดมาเท่าไรก็ตายหมดเท่านั้น
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 24-12-2567
เปิดดู : 48
จดหมาย...จากใจจริง (คัดลอกบางส่วนจากจดหมายที่พระอาจารย์สอนศิษย์เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๐)
โดย วัดท่าขนุน
ข้อมูลเมื่อ : 17-12-2567
เปิดดู : 124