สาระธรรม
คู่ปรับของไสยศาสตร์
รายละเอียด
คู่ปรับของไสยศาสตร์
ทางปักษ์ใต้นี่น่ากลัวมาก ทางใต้เขาจะใช้ คุณผีคุณคน คุณผีเขาใช้ผีทำ คุณคนเขาใช้คนทำ มีหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านไปเทศน์ ได้กลิ่นธูปเหมือนกับกลิ่นศพแล้วก็หน้ามืดหมดสติไป หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาแล้วจมูกก็บวมแดง แล้วก็เน่าลามไปเรื่อย จนจมูกแหว่งไปเลย
แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังจะฉันเช้า ท่านก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงขึงขัง กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย บอกว่า "ลูกกูป่วยแค่นี้พวกมึงรักษาไม่ได้หรือ ?" คนเขาก็แปลกใจ แต่คนแถวนั้นเขาเชื่อเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว ก็ถามว่า "ท่านเป็นใคร ?" ท่านก็บอกว่า "กูคือพระอินทร์ ลูกกูไปโดนเขาทำคุณไสยมา เขาใช้น้ำเหลืองผีตายโหงผสมกับผงธูป ปั้นเป็นธูปแล้วจุดในพิธี"
เพราะฉะนั้น..ใครเทศน์คู่อยู่จะโดนผีของเขาคุมหมด แล้วใครหายใจเข้าไปจมูกก็เน่าไปด้วย มีคนถามว่า "ในเมื่อรักษาไม่ได้ แล้วพ่อปู่จะรักษาอย่างไร ?" ท่านบอกว่า "ไปเอาน้ำมา เดี๋ยวข้าจะเสกน้ำมนต์ให้" พอท่านเสกน้ำมนต์ให้ ทั้งกินทั้งอาบก็หาย แต่จมูกยังแหว่งอยู่อย่างนั้น
ทางใต้นี่เล่นกันหนัก ยิ่งทางอีสานออกไปทางด้านเขมรต่ำ อย่างพวกสระแก้ว บุรีรัมย์นั่นยิ่งสาหัสเลย สมัยหลัง ๆ อาตมาไปยังโดนเลย
ถาม : สระแก้วหรือคะ ?
ตอบ : โดยเฉพาะตาพระยา พื้นที่ของสระแก้ว ทางด้านตาพระยา อรัญประเทศ พื้นที่จะติดเขมร บุรีรัมย์ก็เหมือนกัน แถวละหานทรายเล่นพวกนี้เยอะแยะเลย
แต่พวกนี้จะสู้คุณพระไม่ได้ ถ้าหากว่าเราภาวนานึกถึงพระเป็นปกติจนอารมณ์ใจทรงตัว ไสยศาสตร์ทุกอย่างจะทำอะไรไม่ได้ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่งคือ เราห้ามเผลอ ถ้าเราเผลอสติเมื่อไร เขาจะทำเอาได้ ช่วงที่เผลอก็คือ ช่วงที่เคลิ้มใกล้จะหลับอย่างหนึ่ง ตอนกำลังกินอย่างหนึ่ง ตอนกำลังเข้าส้วมอย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าเผลอสติหลุดเมื่อไร ถ้าเขาจ้องอยู่เราก็ถูกเล่นงานได้
ดังนั้น..หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกให้พวกเรา หาพระเครื่องของครูบาอาจารย์ที่เรามั่นใจ นำมาพกติดตัวไว้ และอาราธนาไว้ทุกวัน จะป้องกันได้ โดยเฉพาะยันต์เกราะเพชร เป็นคู่ปรับของไสยศาสตร์โดยตรงเลย
วันก่อนที่เป่ายันต์เกราะเพชร มีอยู่รายหนึ่งดื้อมาก รายนี้โดนไสยศาสตร์มา ซวยจริง ๆ ที่เขาไปมีศัตรูเป็นหมอไสยศาสตร์ ปกติมีศัตรูแล้วศัตรูไปจ้างหมอไสยศาสตร์ทำ รายนี้ดันมีศัตรูเป็นหมอไสยศาสตร์ จึงรับเละอยู่คนเดียว
มาตรงนี้ก็บอกเขาบอกว่า "ช่วยเต็มที่ไม่ได้นะ ช่วยได้แค่ว่าให้หายกลับบ้านได้เท่านั้น" เขาบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ แล้วผมจะหายได้อย่างไร ?" ก็บอกเขาว่า "ต้องไปงานเป่ายันต์เกราะเพชร" พอดีใกล้จะมีงานพอดี มาตอนกำลังจะมีงานพอดีแสดงว่าเขาจะหมดกรรมแล้ว
วันงานเขาก็มา เขาอยู่รับยันต์รอบสอง รอบแรกอาตมาไม่กล้ากระดิกกระเดี้ย เพราะเป็นงานใหญ่ที่สุดในชีวิต กลัวผิดพลาด ก็ต้องเอาใจจับพระแล้วก็ทำตามพระท่านบอก พอผ่านไปรอบหนึ่ง รอบสองชักจะเคยชิน อาตมาก็เริ่มดูฟ้าดูดินจึงเห็นว่า เวลาที่บารมีพระท่านคลุมลงมา ลักษณะเป็นพุทธนิมิต สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ที่เป็นสีดำ จะกระจายออกรอบข้าง เหมือนกับที่เราโยนถ่านที่ร้อน ๆ เข้าไปกลางฝูงมด
แล้วเจ้าพวกนี้ก็ทั้งเต้นทั้งร้อง เขาร้องว่าอย่างไรรู้ไหม "กูไม่ไป..กูไม่ไป..อย่าเอากูไป..!" คือว่าก่อนที่จะทำพิธีจะมีการอาราธนาบารมีพระ โดยเฉพาะจะขอท้าวมหาราชทั้งสี่และบริวารเป็นที่สุด ถ้าหากว่ามีสิ่งไม่ดีให้ขับไล่ออกไป แต่รายนี้ดื้อมาก จนกระทั่งเทวดาท่านต้องหิ้วคอไป
เมื่อวานนี้คุณวิทูรย์มาเล่า ฟังแล้วหัวเราะกันแทบตาย อาตมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เขาบอก "คนนั้นนั่งอยู่ข้างผม ผมเองกลัวก็กลัว ไม่มีสมาธิเลย สงสัยจะไม่ได้รับยันต์" ...(หัวเราะ)... บอกเขาว่า "ถ้าตั้งใจรับก็ต้องได้อยู่แล้ว เพียงแต่สมาธิเราไม่ดี มัวแต่กลัวผีถึงไม่เกิดอาการอะไรให้รู้ว่าได้รับยันต์แล้ว"
ถาม : ทำให้เห็นเลยหรือครับ ?
ตอบ : อาตมาเห็น แต่ว่าคนอื่นจะเห็นแค่เขาดิ้นแล้วร้อง แต่เวลาที่พระท่านมา ถ้าเราใช้ทิพจักขุญาณกำหนดตาม จะเห็นเป็นปกติอยู่แล้ว
ถาม : อย่างนี้เขาถูกอาจารย์คนที่เป็นหมอไสยศาสตร์ใช้ให้มาหรือครับ ?
ตอบ : ตั้งแต่บัดนี้ไป ถ้าเขาตั้งใจภาวนา "อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ" ทุกวัน พอกำลังใจตั้งมั่นแล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง อธิษฐานขอให้บารมีพระช่วยคลุมเอาไว้ มีหวังว่าคนที่ทำซวยแน่ ๆ เลย เพราะว่ายันต์เกราะเพชรจะสะท้อนกลับไสยศาสตร์ทุกประเภท
ถ้ารับยันต์ไปให้ปลุกด้วยอิติปิ โสฯ แต่ถ้าเราไม่ได้รับยันต์ก็ให้นึกถึงภาพพระคลุมตัวเราลงมาเลย แล้วก็ภาวนาอิติปิ โสฯ ให้กำลังใจทรงตัว จากนั้นกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง เอาแบบเดียวกันเลย เราไม่ได้รับยันต์ เราก็อาศัยภาพพระเป็นหลักไปเลย
....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
โดย : วัดท่าขนุน
ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จำนวนเข้าดู : 64
ปรับปรุงล่าสุด : 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567 20:31:19
ข้อมูลเมื่อ : 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567 20:31:19
สาระธรรม 10 อันดับ
ถ้าหากเราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ไม่อดหรอก ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
ข้อมูลเมื่อ : 03-09-2567
เปิดดู : 77