



สาระธรรม
การถือมงคลตื่นข่าว

รายละเอียด
เมื่อครู่โยมเขาเอาข่าวที่ไหนมาก็ไม่รู้ เขาตกใจกันใหญ่ บอกว่าอาตมาพูดว่า น้ำจะท่วมบ้าง ภัยพิบัติจะเกิดบ้าง ประเทศไทยคนจะตายเหลือ ๕-๖ ล้าน เอามาจากไหน ? ตูยังสงสัยว่าพูดไปตอนไหน ?
เหลือตั้ง ๕-๖ ล้านคน ยังกลัวอีก ก็เราแค่คนเดียว หมดจากเราแล้ว ยังเหลืออีกตั้ง ๔ ล้านกว่า อย่างไรจำนวนแค่หนึ่งคนเราจะแย่งมาไม่ได้เลยหรือ ?
พระพุทธเจ้าเคยตรัสเอาไว้ว่า บุคคลที่มั่นคงในคุณพระรัตนตรัย ภัยอันตรายใด ๆ ก็ทำอันตรายไม่ได้ ดังนั้น..ขอให้เราเคารพมั่นคงในคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ ไม่ถือมงคลตื่นข่าว ไม่ไปหวั่นไหว เรื่องร้ายก็กลายเป็นดีเอง
เคยเจอบ้างไหม ? ประเภทเรือล่มเพราะคนตกใจ คนแห่กันพรวดไปข้างเดียว แล้วเรือก็เอียงกะเท่เร่ ในที่สุดก็ล่มไป ลักษณะเดียวกัน ถ้าเราไปแตกตื่น ก็จะทำให้สถานการณ์ดี ๆ กลายเป็นเสียไปได้
มีอยู่วันหนึ่ง คนทั้งเมืองกาญจนบุรีพากันแตกตื่น แย่งกันขึ้นยอดเขา เพราะลือว่าเขื่อนแตกแล้ว..! ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดคุณรุ่งฤทธิ์ มกรพงษ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
ชาวบ้านแตกตื่นหนีกันขึ้นยอดเขา ไปจับจองที่กางเต็นท์ หรือไม่ก็ไปหาที่นอนของตัวเอง แย่งที่จนถึงขนาดวางมวยกันก็มี ท่านผู้ว่าฯ ต้องใช้โทรโข่งไปประกาศ บอกว่า "ตรวจสอบข่าวทั้งหมดแล้ว เขื่อนยังไม่แตก ไม่ต้องกลัวหรอก ลงมาเถอะ" ก็ไม่มีใครลง เพราะมีพวกที่บอกว่า ตนมีญาติอยู่ที่นั่นเขาบอกว่าเขื่อนแตกแล้วจริง ๆ พอไล่ไปไล่มา เอาเข้าจริง ๆ ก็มีแต่ "ฟังเขาเล่าว่า" มาทั้งนั้น
ประมาณปี ๒๕๔๕ มีข่าวลือว่า พวกที่รับขนคนมอญต่างด้าวเข้าประเทศ เอาคนมอญไปฆ่าทิ้ง ๓๐ กว่าคน อยู่ในเกาะที่เป็นพื้นที่เหนือเขื่อนเขาแหลม ข่าวลือหนักขึ้น ๆ ท้ายสุดอาตมาก็เลยเดือดร้อน เพราะว่าเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัย
ในเมื่อเรื่องลือกันหนักขนาดนั้น ก็ต้องออกไปพิสูจน์ทราบ เขาบอกว่าพวกที่ขนต่างด้าวเข้าเมืองไม่สามารถจะผ่านด่านได้ เลยเอาไปซ่อนไว้ในเกาะ หลายวันเข้าไปส่งอาหารให้ไม่ไหว ก็เลยเอาข้าวคลุกยาฆ่าแมลง (แลนเนต) ให้กิน คนจึงตายหมด เขาบอกว่ากลิ่นศพเหม็นตลบไปเป็นกิโล ๆ ขนาดเรือผ่านไกล ๆ ยังได้กลิ่นเลย..!
อาตมาเลยให้เขาไปสืบว่ามีใครรู้บ้าง พอไปได้ตัวคน ๆ หนึ่งเขาบอกว่า "ได้ยินอีกคนหนึ่งพูด" คน ๆ นั้นมีเรือนแพอยู่ในพื้นที่เขื่อน มีอาชีพหาปลา อาตมาเลยพาคณะไปพิสูจน์กัน เช่าเรือ ๒,๕๐๐ บาท เติมน้ำมันต่างหาก วิ่งตั้งแต่สังขละบุรีลงมา เลาะมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงวังปะโท่ของทองผาภูมิ คือวิ่งมาเกือบร้อยกิโลเมตร ไม่พบอะไรเลย
พอไปเจอบุคคลคนนั้น เขาก็ว่า "อีกคนหนึ่งเล่ามา" ตามไปเจอก็มีแต่ "เขาเล่าว่า" มาตลอด เรารู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะถ้ามีคนมอญตายขนาดนั้น หลวงพ่ออุตตมะท่านไม่อยู่เฉย ๆ หรอก นี่เป็นข้อสังเกตที่หนึ่ง ข้อสังเกตที่สองก็คือ คนเราโง่ขนาดไหนก็ตาม ข้าวคลุกยาฆ่าแมลงใครจะกิน ?
ยาฆ่าแมลงกลิ่นแรงขนาดนั้น ลองถามซิ...ว่าถ้าเป็นเราจะกินไหม ? ต่อให้หิวแทบตายก็ไม่กินแน่ แต่คราวนี้ที่อาตมาไป ไปทำไม ? ก็ไปเพื่อกลับมายืนยันกับพวกที่ลือกัน ว่า "กูไปมาแล้ว เรื่องไม่จริงโว้ย..พวกมึงเลิกลือกันได้แล้ว..!" ต้องเสียเงินขนาดนั้น และต้องลำบากตากแดดจนหลังลอก เพราะว่าเรือไม่มีหลังคา ตากแดดอยู่ครึ่งค่อนวัน
ในเรื่องของข่าวลือ หรือการถือมงคลตื่นข่าวนั้น จะหายไปได้ก็ต่อเมื่อทุกคนเป็นพระโสดาบันไปแล้ว ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ก็ยังมีอยู่เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น..อะไรเกิดขึ้นให้รับรู้ไว้ แต่อย่าเพิ่งเชื่อ
ขณะเดียวกันก็อย่าไปใส่อารมณ์ตาม เพราะว่าพอพูดจากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง เนื้อข่าวจะเริ่มเพี้ยน จะมีการต่อปีกต่อหางไปเรื่อย จากปลาไหลตัวใหญ่หน่อยเลยกลายเป็นมังกรไปทั้งตัว..!
สมัยที่เรียนการข่าวของทหาร เขามีวิธีทดสอบการส่งข่าว โดยครูฝึกจะกระซิบใส่หูคนแรก ภายในหนึ่งนาทีต้องส่งสารไปถึงคนสุดท้ายให้ได้ ทหารรุ่นนั้นมีอยู่ ๑๒๓ คน เขาก็กระซิบต่อไปเรื่อย ๆ จนไปถึงคนสุดท้าย แล้วคนสุดท้ายนั้นก็วิ่งมาต่อหน้า ชิดเท้าปัง...! ยกมือทำความเคารพ แล้วรายงานครูฝึกว่า "ขอบคุณมากครับ..!"
ครูฝึกก็งง ถามว่า "อะไรของมึงวะ ?" เขารายงานครูฝึกไปว่า "ไอ้นั่นบอกว่า ครูฝึกจะให้ผม ๒๐ บาท" ความจริงครูฝึกเขากระซิบใส่หูคนแรกให้บอกคนสุดท้ายว่า "ให้มันวิดพื้น ๒๐" คิดดูก็แล้วกันว่า ให้วิดพื้น ๒๐ ครั้งกลายเป็นครูฝึกจะให้เงิน ๒๐ บาท แค่ผ่านไปไม่กี่ปากเองนะ
ดังนั้น...เขาถึงต้องมีข่าวกรอง ก็คือ การรับข่าวจากแหล่งข่าวหลาย ๆ แห่ง แล้วนำมาวิเคราะห์ ส่วนไหนที่ตรงกันจึงค่อยเชื่อ แต่ไม่ใช่เชื่อทั้งหมด ต้องมีการพิสูจน์ทราบด้วย
ดังนั้น..วิชาการข่าว มีการเรียนข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรองเป็นเรื่องสนุกมาก ครูฝึกเขาก็ทดสอบให้เห็น ๆ ว่าเนื้อข่าวผ่านปากแค่นาทีเดียว ก็เพี้ยนไปได้ขนาดนั้น ลองคิดดูว่า..ถ้าข่าวลือไปสักอาทิตย์หนึ่งจะเพี้ยนไปได้ขนาดไหน ? แต่ละคนพูดเหมือนกับตาเห็นทั้งนั้น..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
ผู้แต่ง
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
โดย : วัดท่าขนุน
ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จำนวนเข้าดู : 16
ปรับปรุงล่าสุด : 11 มีนาคม พ.ศ. 2566 14:31:37
ข้อมูลเมื่อ : 11 มีนาคม พ.ศ. 2566 14:31:37