เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8353 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
52 คน
ทั้งหมด
8868 รูป/คน
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7200 รูป
ลาสิกขา
34 รูป
มรณภาพ
10 รูป
สาระธรรม
พุทธภาษิตสอนใจ
รายละเอียด
อาปูรติ พาโล ปาปสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ ฯ
คนพาลสั่งสมบาปแม้ทีละน้อยย่อมเต็มด้วยบาป ฯ
(พุทธ) ขุ. ธ. ๒๕/๓๑
คนพาล คือคนที่ยินดีพอใจในการทำทุจริตคือบาปอกุศล ไม่เกรงกลัวผลของบาป ทำบาปได้อย่างง่ายดายคล้ายเป็นการเคยชิน แต่ทำบุญหรือทำความดีนั้นแสนยาก คนพาลนั้น หากทิ้งเขี้ยวเล็บคือได้คิด แล้วกลับตัวกลับใจหันมาทำความดี จะมีความตั้งใจทำดีได้เป็นอย่างดี เพราะรู้รสของความทุกข์อันเกิดจากการทำความชั่วด้วยตัวเอง จะเตือนตัวเองได้เป็นอย่างดี มีจิตรู้สึกสำนึกตัว และเร่งทำความดีอย่างเต็มกำลังเพราะรู้ว่าตัวเคยประมาทพลาดพลั้ง และรู้ว่าตัวเป็นคนบาปหนา จึงต้องยิ่งเร่งทำความดีให้มากยิ่งขึ้น
แต่ที่คนพาลบางคนไม่ยอมกลับใจ เพราะคิดว่า ในเมื่อชีวิตผิดพลาดทำบาปแล้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี ก็จะขอไม่ดีต่อไป จึงมีแต่ก้มหน้าก้มตาทำความชั่วทุกคืนทุกวัน ความชั่วก็จะสะสมมากขึ้น ๆ อย่างไม่มีการหยุดยั้ง ในใจของเขาจึงเต็มไปด้วยบาปกรรม เป็นคนใจบาป จะไม่เชื่อฟังใครแม้แต่บิดามารดา น่าสงสารคนประเภทนี้ที่มีความทุกข์ทั้งขณะมีชีวิต เมื่อสิ้นชีวิตก็จะต้องมีความทุกข์ในทุคติภพ
การสะสมสิ่งของมีทรัพย์สินเงินทองเป็นต้น สิ่งนั้นก็จะพอกพูนตามลำดับ แต่จะมีการหมดสิ้นไปด้วยการใช้สอยหรือใช้จ่าย การสะสมบาปก็เช่นเดียวกัน ใจก็จะเต็มไปด้วยบาป จะหมดสิ้นจากบาปที่เรียกกันว่าล้างบาป ก็มีเพียงวิธีการเดียวคือต้องชดใช้หรือรับผลของบาป เหมือนพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์มีพระโมคคัลลานะเป็นต้น จะพ้นจากผลของบาปก็ด้วยการชดใช้บาป ส่วนบาปใหม่ของท่านไม่มีเกิดขึ้นเพราะผลของการบรรลุมรรคผลนิพพาน เหมือนคนไม่มีแผลที่มือ พิษร้ายก็ไม่ซึมซาบเข้าสู่ร่างกายฉะนั้น
บุรพกรรมของพระมหาโมคคัลลาน์ได้เคยทุบทำร้ายมารดาบิดา จึงเป็นเหตุให้ต้องตกนรก เมื่อพ้นจากนรกมาเกิดในภพชาติไหน บาปก็จะส่งผลให้ถูกทุบทำร้ายถึงตาย แม้ในภพชาติสุดท้าย บาปเก่ายังไม่หมดสิ้น แม้นบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์อัครสาวกเบื้องซ้าย แต่ก็ต้องนิพพานเพราะถูกคนทุบทำร้าย
การทำความชั่ว อย่าถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ทำแล้วก็แล้วกันไป ที่จริง ไม่มีคำว่าแล้วกันไป กลับจะเป็นการเก็บสะสมเหมือนคนที่หายใจเอาสารตะกั่วเข้าไป สารนั้นจะไปเก็บสะสมในตัวมากยิ่งขึ้น เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่บาปนั้นจะทำอันตรายทุกภพทุกชาตินับแต่ชาติปัจจุบันที่ได้ทำความชั่ว
เพราะฉะนั้น ทุกคนจงทำใจให้กลัวบาป ให้นึกไว้ว่า บาปจะเก็บไว้ให้ใช้ทุกชาติ ไม่ใช่เป็นของเล็กน้อย ไม่ใช่เป็นของทำเล่น เราจะนึกว่าเล่น ๆ แต่เขาเอาจริง ขอให้คิดว่า
๑. สะสมสิ่งใด ย่อมเต็มใจด้วยสิ่งนั้น สะสมบาปทุกคืนวัน ทุกข์โศกศัลย์คืนสนอง
๒. ทุกบาปล้วนมีผล ทำร้ายตนทุกภพชาติ มีหิริโอตตัปปะไม่ประมาท พึงละขาดบาปทั้งปวง
ผู้แต่ง
โดย : วัดจำปา
ที่อยู่ : ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
จำนวนเข้าดู : 125
ปรับปรุงล่าสุด : 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 09:23:46
ข้อมูลเมื่อ : 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 09:18:59
สาระธรรม 10 อันดับ
ผู้ที่ตกอยู่ในสภาวะอับจน ไม่ควรหมดอาลัยตายอยาก
โดย วัดหนองสังข์ทอง
ข้อมูลเมื่อ : 06-03-2567
เปิดดู : 29