เข้าสู่ระบบสมาชิก
สถิติสารสนเทศ
วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรมหาวิหาร
1 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นเอก วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรมหาวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นโท วรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี ราชวรวิหาร
0 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี วรวิหาร
2 วัด
พระอารามหลวง ชั้นตรี สามัญ
9 วัด
วัดราษฎร์
1455 วัด
สำนักสงฆ์
83 วัด
ที่พักสงฆ์
72 วัด
วัดร้าง
2 วัด
วัดทั้งหมด
1624 วัด
 
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
8353 รูป
สามเณร
302 รูป
แม่ชี
89 รูป
ศิษย์วัด
33 คน
บุคคลทั่วไปชาย
39 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
52 คน
ทั้งหมด
8868 รูป/คน
 
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
40 รูป
สามเณร
25 รูป
แม่ชี
1 รูป
ศิษย์วัด
3 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
69 รูป/คน
 
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
7200 รูป
ลาสิกขา
34 รูป
มรณภาพ
10 รูป
 

สาระธรรม

เราผ่านการเวียนว่ายตายเกิด มาเนิ่นนานเกินกว่า

รายละเอียด

เราผ่านการเวียนว่ายตายเกิด
มาเนิ่นนานเกินกว่า
ที่จะมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นในชีวิต
มีแต่สิ่งที่เป็นไป...
ตามเหตุตามปัจจัยทั้งหมดทั้งสิ้น
ที่เรียกว่า ธรรมชาติจัดสรร
ก็จัดสรรตามเหตุตามปัจจัย
ไม่ได้มีใครมาบันดาล
มากำหนดชีวิตของเราหรอก
แต่มันเป็นผลสืบต่อจากเหตุจากปัจจัยนั่นเอง
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรเรียนรู้
ก็คือ ยอมรับ..กฎของการกระทำ..กฎของธรรมชาติ
ที่เรียกว่า เคารพต่อวาระ นั่นเอง
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ผุดตรงหน้าเรา
นั่นแหละคือสิ่งที่เรียก...วาระ
เพราะว่า มันเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย
"เมื่อมีเหตุเกิด มันก็เกิด
เมื่อหมดเหตุหมดปัจจัย มันก็ดับ
เรียนรู้ ยอมรับ ทุกสรรพสิ่งก็เป็นเช่นนั้นเอง"
เมื่อใดที่ #อกุศลธรรม ให้ผล
ก็คือ การกระทำที่ไม่ดีที่เคยทำไว้ มันให้ผล
มันก็จะเกิดความไม่สบายกายบ้าง
เกิดความไม่สบายใจบ้าง
เกิดความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดีต่าง ๆ บ้าง
เป็นแรงส่งให้เกิดการพูดที่ไม่ดีบ้าง
เกิดการกระทำที่ไม่ดีบ้าง
หลงไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่มันไม่ดีบ้าง
อันนี้มันขับเคลื่อนด้วยอกุศลธรรมนั่นเอง
เมื่อใดที่ #กุศลธรรม
คือ คุณงามความดีที่เคยบำเพ็ญไว้ส่งผล
มันก็จะเป็นแรงขับเคลื่อน
ให้เกิดความสบายกายบ้าง ความสบายใจบ้าง
เกิดความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ที่ดีบ้าง
เป็นแรงส่งให้เกิดคำพูดดี ๆ
เกิดการกระทำดี ๆ บ้าง
สังเกตบางครั้งชีวิตคนเราน่ะ
มันก็อยากจะทำสิ่งดี ๆ มีแรงขับอยู่
อยากจะปฏิบัติธรรม อยากจะพัฒนาตัวเอง
อยากจะทำสิ่งดี ๆ
แต่บางครั้งชีวิตคนเราเนี่ย กลับตรงกันข้าม
อยากจะหลงโลก อยากจะทำสิ่งที่มันไม่ดี
อย่างที่มันเป็นต่าง ๆ
บางครั้ง ก็รู้ว่ามันไม่ดี
แต่มันห้ามใจตัวเองไม่ได้
คนที่เขาติดการพนัน
เขาก็รู้ว่ามันไม่ดี แต่เขาเลิกไม่ได้
แรงกรรมมันมีกำลังสูงกว่าที่เขาจะยับยั้งชั่งใจได้
ถ้าเราไม่เข้าใจ ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ยอมรับ
เราจะวางใจไม่ถูก แล้วเราจะติดข้อง
จมปลักไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
เวลามีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น…
ก็จมไปกับความทุกข์ ความเจ็บปวด
ความทุกข์ทรมาน
เวลามีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น…
ก็จะหลงเพลิน มีความประสบความสำเร็จ ก็จะติดใจ
จมไปกับสิ่งที่มันประสบความสำเร็จต่าง ๆ
มันก็ติด ก็จมอยู่กับโลกทั้งหมดทั้งสิ้นนั่นเอง
แต่ถ้าเราเข้าใจความเป็นไป...ยอมรับ
มันก็จะไม่ไปติดข้องกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
วางใจได้ถูกนั่นเอง
แล้วแท้ที่จริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
มีสองด้านเสมอ มันเป็นสัจธรรมในวัฏสงสาร
สิ่งต่าง ๆ ล้วนมีสองด้านเสมอ
ก็คือ ด้านที่เป็นคุณประโยชน์
แล้วก็ด้านที่เป็นโทษนั่นเอง
ในขณะที่เราต้องเผชิญกับความผิดพลาด
ความไม่สมหวัง ความไม่ได้ดั่งใจ
ความเจ็บปวดความทุกข์ทรมานต่าง ๆ
ความบีบคั้นของกายและใจต่าง ๆ
ที่เรารู้สึกว่า...มันทุกข์จริง ๆ เลย
มันเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน
ทำให้เราจมไปกับความทุกข์ทรมาน
แต่แท้ที่จริงแล้วเนี่ย ที่มันดูว่ามันเป็นโทษ
มันก็มีด้านที่มันเป็นคุณประโยชน์อยู่
ยาเนี่ย มักมีรสขมอยู่เสมอ
ความเจ็บปวดก็ดี ความขมขื่นก็ดี
และอีกด้านหนึ่งมันก็คือ...ยาชั้นดีเลย
ที่จะทำให้เราเพาะบ่มจิตวิญญาณของเราน่ะ
ว่า...ให้ตระหนักรู้ถึงโทษภัยในวัฏสงสาร
คนที่ล้มมามาก...เจ็บมามาก
มันจะวางลงได้โดยธรรมชาติเลย
เหมือนเรากำลังแบกของร้อน ของหนักไว้
ยังไงมันก็ต้องปล่อยโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
มันทำให้เราคลาย...จากสิ่งที่ยึดที่หลงอยู่
มันทำให้เรา...ยอมรับ
มันทำให้เรา...ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
เห็นโทษภัยของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
"ยามักมีรสขมเสมอ"
อย่าได้ท้อใจ เมื่อเราเผชิญกับ
ปัญหาอุปสรรค ความขมขื่นต่างๆ
ให้เรามองให้เห็นว่า...
อีกด้านหนึ่งมันก็คือยาขมนั่นเอง
เพื่อเพาะบ่มจิตวิญญาณนี้
ให้ตระหนักรู้ถึงโทษภัยในวัฏสงสาร
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นคือ...
เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเปล่า?
สิ่งที่เรียกว่า...วาระ
ก็คือ สิ่งที่ผุดขึ้นต่อหน้าของเรานั่นแหละ
ไม่มีอะไรบังเอิญ มันไม่เป็นไปตามใจของเราหรอก
มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยนั่นเอง
ในอีกด้านหนึ่ง...
บางคนอาจจะได้รับสิ่งดีๆ สบายกาย สบายใจ
มีแต่ความสบาย มีแต่ความสุข
มีแต่ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
ปรารถนาสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น
ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
มันดูว่าเหมือนจะดีนะ ชีวิตมีแต่ความสบาย
มีแต่ความสุข มีแต่ความบันเทิง
เรียกว่า...เหมือนชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบเลย
อะไรอะไรมันก็ดูดีไปหมด โลกนี่สวยงามไปหมด
พอเราสัมผัสด้านเดียว
ด้านที่มันเป็นสิ่งที่ดีที่เรากำลังเสวยอยู่
เราก็มักจะเกิดความติดใจ
หลงเพลิดเพลินกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น
บางทีมันก็หลงระเริงบ้าง ตัวลอยเลยลิงโลดเลย
ทำอะไรก็เก่ง ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
ผลที่ตามมา ก็คือ...ใช้ชีวิตอย่างประมาท
ไม่ได้ตระหนักถึงโทษภัย
ของสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า..
"ความประมาทคือหนทางแห่งความตาย" นั่นเอง
ก็มองให้เห็นว่า... ยาพิษมักแฝงมา
ในรูปของความหวานเสมอ
ความหอมหวานที่กำลังได้รับ มันมักบ่อนทำลาย
มันทำให้เราหลงระเริง ทำให้เราลืมเนื้อลืมตัว
ทำให้ใจเราพองฟู ทำให้เรา...หลงประมาท
" เห็นทุกข์ จึงเห็นธรรม "
หลายคนที่เข้าสู่การปฏิบัติธรรม เพราะอะไร?
...ก็เจอความทุกข์บีบเค้นทั้งนั้นส่วนใหญ่
เพราะฉะนั้นมองให้เห็นว่า
สิ่งต่าง ๆ มี 2 ด้านเสมอ
มันเป็นเรื่องสัจธรรมในวัฏสงสาร
จะได้ไม่ติดข้องกับสิ่งต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไป
ตามเหตุตามปัจจัยทั้งหมดทั้งสิ้น
เรียนรู้ ยอมรับ ทุกสรรพสิ่งก็เป็นเช่นนั้นเอง
เป็นผู้ที่เคารพต่อวาระของธรรมชาติ
เมื่อเราเคารพวาระของธรรมชาติ
เราจะปล่อยวางเรื่องราวต่าง ๆ ได้

ผู้แต่ง
พระมหาวรพรต กิตฺติวโร

โดย : วัดเขานางบวช

ที่อยู่ : ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

จำนวนเข้าดู : 72

ปรับปรุงล่าสุด : 19 ตุลาคม พ.ศ. 2565 00:01:05

ข้อมูลเมื่อ : 19 ตุลาคม พ.ศ. 2565 00:01:05

 
 
 
 

สาระธรรม 10 อันดับ

"อยู่สบาย ตายก็เป็นสุข"

โดย วัดประตูสาร

ข้อมูลเมื่อ : 06-04-2567

เปิดดู : 25

ปล่อยวาง

โดย วัดสะแกราย

ข้อมูลเมื่อ : 09-03-2567

เปิดดู : 37

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

โดย วัดท่าทอง

ข้อมูลเมื่อ : 08-03-2567

เปิดดู : 43

ความสุขในโลก

โดย วัดสุวรรณตะไล

ข้อมูลเมื่อ : 07-03-2567

เปิดดู : 30

วันมาฆบูชา

โดย วัดอินทาราม

ข้อมูลเมื่อ : 24-02-2567

เปิดดู : 33