วัดสกุณปักษี เดิมชื่อว่า "วัดนกกระจอก" เนื้อที่วัดเดิมประมาณ ๑๔ ไร่เศษ สร้างประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๘ โดยหลวงตาจันทร์ มาโสมพันธุ์ ท่านจำอยู่วัดจำปา บ้านท่าตาเทศ ทางทิศใต้วัดสกุณปักษ๊ เพราะเกิดโรคเรื้อนระบาดหนัก ชาวบ้านจึงย้ายไปอยู่บ้านหนองโอ่ง บ้านตีนเป็ด ทำให้วัดจำปาทรุดโทรมลง ไม่มีพระจำพรรษา ไม่มีญาติโยมบำรุงวัด กลายเป็นวัดร้าง หลวงตาจันทร์จำเป็นต้องย้ายมาปลูกกระท่อมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าว้า มีต้นไม้ใหญ่และป่าไผ่ นกกระจอกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ครั้นมีเสนาสนะแล้ว จึงตั้งชื่อวัดว่า " วัดนกกระจอก" 
    วัดนกกระจอกเจริญเรื่อยมา มีการสอนหนังสือ สมัยนันไม่มีกระดานดำ ใช้ดินหม้อทาแผ่นกระดาน นำดินขาวปั้นเป็นดินสอเขียนบนแผ่นกระดาน  เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ท่านสมภารสมัยนั้น ได้ให้พระภิกษุที่เคยเป็นทหารมาฝึกระเบียบให้กับเด็กนักเรียน 
    สำหรับการสอนในสมัยนั้น สอนตั้งแต่ แม่กน แม่กง แม่กก แม่กด แม่กบ แม่เกย  เมื่อเด็กได้หนังสือไทยแล้ว สอนภาษาขอมต่อ ต่อมาท่านอาจารย์แสง ได้สร้างเสนาสนะ เช่น ศาลา กุฎี และโบสถ์ขึ้น ๑ หลัง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. ๒๔๕๕ (โบสถ์หลังแรกของวัด)
    สมัยท่านพระอาจารย์สุขเป็นเจ้าอาวาส  คณะเจ้าคณะมณฑลนครชัยศรีได้มาตรวจการวัด ในเขตมณฑลสมัยนั้น  ได้เปลี่ยนชื่อวัดให้ใหม่ ว่า " วัดสกุณปักษี"  
    สมัยพระครุสุวรรณวชิรธรรม (บุญเชียร เตชธมฺโม ป.ธ.๓) เป็นเจ้าอาวาส (พ.ศ.๒๕๒๑ - ๒๕๕๕) ได้สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ชื่อ " โรงเรียนโพธิสังวรวิทยา" เปิดสอนระดับ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึง มัธยมศึกษาปีที่ ๖
ได้สร้างโรงเรียนเอกชนการกุศลวัดสกุณปักษี พ.ศ.๒๕๔๐ เปิดสอนระดับ อนุบาลชั้น ๑ - ๓ ประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ 
    ปัจจุบันมีเพียงโรงเรียนการกุศลของวัดที่ยังดำเนินการเรียนการสอนอยู่ 
    พ.ศ.๒๕๕๒ พระคุณท่านได้นำศรัทธาสาธุชน สร้างพระใหญ่ปางปฐมเทศนา หน้าตักกว้าง ๑๒ เมตร สูง ๑๗ เมตร เป็นเนื้อทองเหลือง แล้วเสร็จ ประดิษฐาน ณ วิหารใหญ่ ชั้นที่ ๒ เป็นพระปางปฐมเทศนาเนื้อทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 
    

เอกสารเกี่ยวกับวัด 1 : (339.2 kb)

เอกสารเกี่ยวกับวัด 2 : (141.57 kb)

เอกสารเกี่ยวกับวัด 3 : (242 kb)

Google Map Link
กดดู